Please use this identifier to cite or link to this item: http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/942
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.authorผศ.ดร.อุทัย, สติมั่น-
dc.contributor.authorผศ.ดร.วิโรจน์, คุ้มครอง-
dc.contributor.authorพระมหาวีรธิษณ์ วรินฺโท, ดร.-
dc.date.accessioned2022-07-26T08:09:21Z-
dc.date.available2022-07-26T08:09:21Z-
dc.date.issued2562-12-31-
dc.identifier.issnP-ISSN : 2539-5777 E-ISSN : 2651-0820-
dc.identifier.urihttp://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/942-
dc.description13 - 23 pp.en_US
dc.description.abstractบทความวิชาการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงให้เห็นว่า วิบาก คือ ผลที่เกิดจากกรรมที่ทำไว้ก่อน ประดุจเงาติดตามกรรม ในสังคีติสูตรแบ่งบุคคลที่จะต้องรับกรรม (วิบาก) ตามที่ตนได้กระทำไว้ ๔ ประเภท คือ ๑. ตโม ตมปรายโน คือ ผู้มืดมา และมืดไป ๒. ตโม โชติปรายโน คือ ผู้มืดมา แต่สว่างไป ๓. โชติ ตมปรายโน คือ ผู้สว่างมา แต่มืดไป ๔. โชติ โชติปรายโน คือ ผู้สว่างมา และสว่างไป วงจรวิบากหรือเหตุปัจจัยที่เกี่ยวเนื่องกับกรรมเหล่านี้ เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ตามเหตุปัจจัย ดังนั้น การทำกรรมดีที่จะสามารถส่งผลได้ดีหรือไม่นั้นจะต้องพิจารณาเรื่องสมบัติ ๔ และวิบัติ ๔ เป็นองค์ประกอบด้วย ส่วนวิบากตามที่พระพุทธองค์ทรงแสดงนั้นเป็นสิ่งที่สามารถให้ผลไปในลักษณะต่างๆ ตามกรรมที่ได้ก่อไว้ และเมื่อกรรมนั้นเกิดขึ้นมาต้องมีการตั้งอยู่และดับไปตามเหตุปัจจัย ดังพระพุทธพจน์ในนิพเพธิกสูตรว่า เรากล่าวเจตนาว่าเป็นตัวกรรม บุคคลคิดแล้ว จึงกระทำด้วยกาย วาจา ใจ สิ่งที่เกิดขึ้นโดยมีเจตนาจะทำให้เกิดกรรมอย่างแน่นอน และจะเป็นเหตุให้ต้องเสวยวิบากกรรมกันต่อไปตามกรรมที่ก่อไว้en_US
dc.subjectวงจรวิบากen_US
dc.subjectหลักพระพุทธศาสนาen_US
dc.titleวงจรวิบากตามหลักพระพุทธศาสนาen_US
dc.title.alternativeCircle of Kamma’s Results in Theravada Buddhismen_US
Appears in Collections:บทความ

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
วงจรวิบากตามหลักพระพุทธศาสนา.pdf192.96 kBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.