Please use this identifier to cite or link to this item: http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/925
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.authorพระภาวนาพิศาลเมธี วิ., (ประเสริฐ มนฺตเสวี)-
dc.contributor.authorพระครูพิพิธวรกิจจานุการ, (มานิต เฟื่องฝน)-
dc.contributor.authorพระมหาชิต, ฐานชิโต-
dc.contributor.authorแม่ชีสุนันทา, เรียงแหลม-
dc.contributor.authorบุณชญา, วิวิธขจร-
dc.date.accessioned2022-07-26T05:44:12Z-
dc.date.available2022-07-26T05:44:12Z-
dc.date.issued2561-01-01-
dc.identifier.urihttp://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/925-
dc.description.abstractบทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัย เรื่อง การเจริญสติปัฏฐานในอิริยาบถเดินจงกรม ตามหลักอนุปัสสนา ๗ ผลการวิจัยพบว่า การเจริญสติปัฏฐาน คือความระลึกรู้อยู่ในอารมณ์ที่ เป็นไปในสติปัฏฐาน ๔ ที่จะทำให้เห็นสภาวะตามความเป็นจริงโดยอาศัยอิริยาบถ ๔ คือ การยืน การเดิน การนั่ง และการนอน จัดอยู่ในอิริยาบถปัพพะ หมวดกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน ซึ่ง สงเคราะห์เป็นรูปขันธ์ได้โดยตรง จัดเป็นอารมณ์ของวิปัสสนา อนุปัสสนา ๗ ในการเจริญวิปัสสนา ภาวนา คือการอบรมปัญญาให้เกิดความหยั่งรู้ หยั่งเห็น เห็นแจ้งโดยประการต่าง ๆ ในสภาวะ ลักษณะของสภาวธรรมรูป สภาวธรรมนาม ตามความเป็นจริงว่า สภาวธรรมทั้งหลายไม่เที่ยง เป็นทุกข์เป็นอนัตตา ไม่ใช่บุคคลตัวตนเราเขา เป็นการตามรู้รูปเป็นหลัก รู้อาการของธาตุ ๔ ธาตุใดธาตุหนึ่งที่ปรากฏชัดเจนในขณะจิตปัจจุบันตามรู้นามเป็นหลัก ตามรู้เวทนา จิต หรือ สภาวธรรมที่ปรากฏขณะจิตปัจจุบัน ได้แก่บุคคลผู้บรรลุฌานแล้ว ปฏิบัติจนชำนาญจนถึงยกจิต เข้าสู่พระไตรลักษณ์เจริญวิปัสสนาพิจารณาเห็นสภาพธรรมตามล าดับสมาบัติและองค์ฌาน โดย ลักษณะอนุปัสสนา ๗ ประการen_US
dc.subjectสติปัฏฐานen_US
dc.subjectจงกรมen_US
dc.subjectอนุปัสสนา ๗en_US
dc.titleการเจริญสติปัฏฐานในอิริยาบถเดินจงกรมตามหลักอนุปัสสนา ๗en_US
Appears in Collections:บทความ



Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.