Please use this identifier to cite or link to this item:
http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/869
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.author | สิริปญฺโญ, พระมหาไสว | - |
dc.contributor.author | กตปุณฺโญ, พระครูสมุห์เฉวียน | - |
dc.contributor.author | อุดมโชคนามอ่อน, ไชยสิทธิ์ | - |
dc.date.accessioned | 2022-03-31T06:50:12Z | - |
dc.date.available | 2022-03-31T06:50:12Z | - |
dc.date.issued | 2561 | - |
dc.identifier.uri | http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/869 | - |
dc.description.abstract | การวิจัยเรื่อง การศึกษาเมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อการพัฒนาสู่ชุมชนแห่งการเรียนรู้กรณีศึกษาจังหวัดมหาสารคาม มีจุดประสงค์ ๓ ข้อ คือ ๑) เพื่อศึกษาเมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในต่างประเทศ ๒) เพื่อศึกษาเมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในประเทศไทย ๓) เพื่อเสนอรูปแบบเมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาสู่ชุมชนแห่งการเรียนรู้ของจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งผู้วิจัยใช้รูปแบบการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายดังนี้ กลุ่มเป้ามายในการวิจัยเชิงคุณภาพคือ ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (Key Information) ในการสัมภาษณ์โดยทำการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) จำแนกผู้ให้ข้อมูลได้แก่ กลุ่มเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ๕ คน กลุ่มพนักงานรัฐวิสาหกิจ ๕ คน กลุ่มบุคลากรทางเศรษฐกิจภาคเอกชน ๕ คน กลุ่มบุคลากรทางดานวัฒนธรรมและวัด ๕ คน กลุ่มบุคลากรทางการศึกษา ๕ คน ผลการวิจัยพบว่า ประชนชาวมหาสารคามเป็นคนที่มีความดีงามและเพียบพร้อมด้วยภูมิความรู้มากมาย ตามวิวัฒนาการของบ้านเมือง และพัฒนาการของผู้คนและสังคมก้าวหน้า สู่วิถีชีวิตที่เรียบง่าย รักสันติ เป็นสังคมแห่งภูมิปัญญา และเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ จังหวัดมหาสารคาม เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่กึ่งกลางของภาคอีสานไม่มีภูเขา มีแม่น้ำชีไหลผ่าน ซึ่งเป็นเมืองสงบจึงเหมาะกับการเป็นที่ตั้งสถานศึกษาต่างๆ ทุกระดับ จึงเป็นที่มาของคำว่า เมืองแห่งการศึกษา หรือ ตักสิลานครจุดเด่นความเป็นตักสิลานครคือ จังหวัดมหาสารคามมีสถาบันการศึกษาระดับสูงสุดหลายแห่ง สามารถผลิตทรัพยากรแรงงานระดับคุณภาพที่จะตอบสนองความต้องการทางเทคโนโลยีและธุรกิจได้ ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการทางเศรษฐกิจและแนวทางการพัฒนาประเทศ จึงเป็นจุดเด่นของจังหวัดมหาสารคาม จังหวัดจึงได้ส่งโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้สู่การพัฒนาชุมชนภายใต้แนวคิด ๓ ส่วน ได้แก่ ๑. ทุนความรู้คือ ภูมิปัญญา เทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์จากสถาบันการศึกษาต่าง ๆ เช่น มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม วิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม สถาบันการพลศึกษา วิทยาลัยเทคนิค วิทยาลัยอาชีวศึกษา วิทยาลัยเกษตรซึ่งมีหลักสูตรการเรียนการสอนมากกว่า ๑,๐๐๐ หลักสูตรเพื่อการเรียนรู้ศึกษาวิจัย ๒. ทุนทรัพยากรมนุษย์หมายถึง คนซึ่งจังหวัดมหาสารคามมีผู้ทรงคุณวุฒิผู้เชี่ยวชาญคณาจารย์ นิสิต นักศึกษาปราชญ์ชาวบ้านมากว่า ๑๐๐,๐๐๐ คนที่จะขับเคลื่อนเรียนรู้และพัฒนาชุมชน ๓. ชุมชนซึ่งประชาชนส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรมอาชีพเสริมเป็นการผลิตสินค้าหัตถกรรมต่างๆ ชุมชนวัฒนธรรม และชุมชนประวัติศาสตร์ ซึ่งทั้งสามส่วนได้หล่อหลอมองค์ความรู้เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการให้เป็นอัตลักษณ์อันโดดเด่นของจังหวัดมหาสารคาม โดยได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการคัดเลือกเป็น ๑ ใน ๑๐ เมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศ | en_US |
dc.publisher | สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย | en_US |
dc.subject | เมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ | en_US |
dc.subject | การพัฒนาสู่ชุมชนแห่งการเรียนรู้ | en_US |
dc.title | ศึกษาเมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อการพัฒนาสู่ชุมชนแห่งการเรียนรู้ กรณีศึกษาจังหวัดมหาสารคาม | en_US |
dc.title.alternative | A study model city of the creative economy to development the learning communities: Case study Mahasarakham province. | en_US |
dc.type | Other | en_US |
Appears in Collections: | รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
2561-096 พระมหาไสว สิริปญฺโญ.pdf | 2.94 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.