Please use this identifier to cite or link to this item: http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/865
Title: การสร้างศักยภาพและความสามารถให้วัดเป็นศูนย์กลางเยียวยาทางจิตใจผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
Other Titles: To create a potential of Temples for being mental therapy centers the people who have been impacted by the violence in the three southern border provinces
Authors: อินบัว, ไชยยุทธ์
Keywords: การสร้างศักยภาพและความสามารถ
ศูนย์กลางเยียวยาทางจิตใจ
ความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
Issue Date: 2557
Publisher: สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
Abstract: งานวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ ๑)เพื่อศึกษาสภาพทั่วไปของผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ๒)เพื่อศึกษาศักยภาพของวัดในการเป็นศูนย์กลางการบาบัดและเยียวยาจิตใจของผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ ๓)เพื่อศึกษาแนวทางการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ๆ ในการทาให้วัดเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และเยียวยาผู้ประสบเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพในการวิเคราะห์ข้อมูล พื้นที่วิจัยประกอบด้วย จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดนราธิวาส โดยกลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลักแบ่งเป็น ๓ กลุ่ม คือ กลุ่มญาติผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ กลุ่มผู้นาศาสนา กลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น เจ้าหน้าที่เยียวยา ผู้อานวยการสานักงานพระพุทธศาสนาประจาจังหวัด การเก็บรวบรวมข้อมูลใช้วิธีการสัมภาษณ์และวิธีการสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วม ผลการวิจัยพบว่า สภาพทั่วไปของผู้ได้รับผลกระทบในสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะได้รับผลกระทบต่อการดารงชีวิตประจาวันในด้านการประกอบอาชีพที่ต้องเปลี่ยนแปลงไปหรือต้องหาอาชีพเสริมเพื่อดูแลครอบครัว การต้องรับภาระที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากสูญเสียเสาหลักของครอบครัวไป การต้องเผชิญปัญหาต่าง ๆ ที่ตามมาโดยลาพัง เนื่องจากต้องสูญเสียคู่ชีวิต หรือบางครอบครัวต้องสูญเสียพ่อแม่ ทาให้ผู้ที่เหลืออยู่โดดเดี่ยว และต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ในด้านการปฏิสัมพันธ์กับชุมชน บางครอบครัวเก็บตัวไม่ชอบเข้าสังคม หลายครอบครัวต้องย้ายถิ่นฐานที่อยู่ บางครอบครัวต้องหากิจกรรทางสังคมหรือรวมกลุ่มอาชีพต่าง ๆ เพื่อผ่อนคลายความโศกเศร้าที่เกิดขึ้น ในด้านการดาเนินชีวิตตามหลักการทางศาสนาของผู้ได้รับผลกระทบพบว่า สถานการณ์ความไม่สงบส่งผลต่อวิถีชีวิตตามหลักวัฒนธรรมประเพณีที่เคยปฏิบัติกันมาทาให้วิถีชีวิตเปลี่ยนแปลง ในการเยียวยาจิตใจของผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบบางครอบครัวใช้การปฏิบัติธรรมเพื่อช่วยบรรเทาความโศกเศร้า ข ศักยภาพของวัดในการเป็นศูนย์กลางการบาบัดและเยียวยาจิตใจของผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ พบว่า ศักยภาพของวัดในปัจจุบันด้านผู้นาศาสนาพบปัญหามากที่สุดเนื่องจากพระที่จะเข้ามาบวชมีจานวนน้อย และพระที่ประจาอยู่ตามวัดต่าง ๆ มีอายุพรรษามาก ต้องรับผิดชอบงานของวัดที่มีความหลากหลาย ในด้านศาสนสถานหลายวัดอาคารเสนาสนะทรุดโทรมเพราะขาดการบารุงรักษาทาให้ไม่ได้ใช้ประโยชน์ได้เท่าที่ควร แนวทางการพัฒนาศักยภาพวัดให้เป็นศูนย์กลางการเยียวยาจิตใจของผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ โดยพัฒนาศักยภาพผู้นาศาสนา พัฒนาศักยภาพศาสนบุคคล ศักยภาพด้านศาสนสถาน/ศาสนวัตถุ ศักยภาพด้านศาสนพิธี/กิจกรรม ศักยภาพด้านศาสนสงเคราะห์ และพัฒนาศักยภาพด้านศาสนธรรม แนวทางการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ๆ ในการทาให้วัดเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และเยียวยาผู้ประสบเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ พบว่า การดาเนินงานในปัจจุบันหน่วยงานต่าง ๆ ดาเนินการในส่วนที่รับผิดชอบไม่มีการประสานกันเท่าที่ควร แนวทางการบูรณาการการทางานร่วมกันระหว่างหน่วยงานของรัฐ องค์กรเครือข่ายเอกชน และวัด จึงต้องมีการทางานร่วมกันโดยให้วัดเป็นศูนย์กลางการดาเนินงาน มีหน่วยงานรัฐ และหน่วยงานเครือข่ายต่าง ๆ เป็นผู้สนับสนุนในด้านปัจจัยต่าง ๆ ในการดาเนินงาน ซึ่งจะช่วยให้งานการเยียวยาจิตใจผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดาเนินการโดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
URI: http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/865
Appears in Collections:รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
2557-061ไชยยุทธ์ อินบัว.pdf3.16 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.