Please use this identifier to cite or link to this item:
http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/710
Title: | การวิเคราะห์สังเคราะห์องค์ความรู้และกระบวนการให้การปรึกษาเชิงพุทธจิตวิทยา |
Other Titles: | Analytical Synthesis of Knowledge and Counseling Process in Buddhist Psychology |
Authors: | พูนวสุพลฉัตร, นวลวรรณ พระครูพิพิธปริยัติกิจ พระครูกัลยาณสิทธิวัฒน์ ภูวชนาธิพงศ์, กมลาศ |
Keywords: | การให้การปรึกษาแนวจิตวิทยา พุทธจิตวิทยา จิตบำบัด |
Issue Date: | 2561 |
Publisher: | สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย |
Abstract: | การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการคือ (๑) เพื่อศึกษาการให้การปรึกษาด้านจิตวิทยาตามแนวคิดตะวันตก (๒) เพื่อศึกษาการให้การปรึกษาตามหลักพุทธจิตวิทยา และ (๓) เพื่อวิเคราะห์สังเคราะห์องค์ความรู้และกระบวนการให้การปรึกษาเชิงพุทธจิตวิทยา การวิจัยเรื่องนี้ เป็นการวิจัยคุณภาพเชิงเอกสาร ประกอบด้วยการศึกษาวิเคราะห์และสังเคราะห์เชิงพุทธจิตวิทยากับการให้การปรึกษาจิตวิทยาคลินิก ผลการศึกษาวิจัยมีดังนี้ : การครองชีวิตของบุคคลในสังคมปัจจุบันถูกบีบคั้นเป็นอย่างมากทั้งระบบเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การสื่อสารและเทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม การครองชีพ ค่านิยม พฤติกรรมและโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ทำให้เกิดความเครียดก่อให้เกิดปัญหาทางจิต เป็นโรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล โรคความผิดปกติของการปรับตัว โรคบุคลิกภาพผิดปกติ โรคการใช้สารเสพติด เป็นต้น รวมเรียกว่าภาวะโรคจิต จึงจำเป็นต้องมีการป้องกันและเยียวยาผู้ป่วยตามหลักจิตเวชศาสตร์ มีการจัดตั้งจิตวิทยาคลินิก บริการให้การปรึกษาทางจิตวิทยา โดยใช้จิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ คำว่า “สุขภาพจิต” หมายถึงสภาพจิตใจที่เป็นสุข ตระหนักรู้ความสามารถของตนเอง ปรับตนเองได้ในภาวะกดดันในชีวิต ทำงานที่เกิดเป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นในสังคมได้ คือ สุขภาพจิตปกติหรือสุขภาพจิตดี สามารถเผชิญปัญหาข้อขัดข้องหรือขจัดความวิตกกังวลออกไปได้ กล้าเผชิญความจริง พยายามปรับปรุงแก้ไขตนเองได้ดี ส่วนสุขภาพจิตไม่ดี เกิดกับบุคคลผู้มีปัญหารุนแรง เกิดวิตกกังวล กลุ้มใจ ไม่มีสมาธิ หงุดหงิด หดหู่ใจ เบื่อหน่ายชีวิต การเยียวยารักษาจึงมุ่งไปที่การช่วยให้ผู้ป่วยรู้จักและเข้าใจตัวเอง เข้าใจผู้อื่น เข้าใจปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น สามารถวิเคราะห์ปัญหา ค้นหาแนวทางในการแก้ปัญหา การเปลี่ยนพฤติกรรม จนสามารถดำเนินชีวิตที่มีคุณค่าและความหมายได้ ในส่วนของพุทธจิตวิทยา เชื่อว่าจิตเดิมนั้นมีสภาพผ่องใสบริสุทธิ์แต่ที่ขุ่นมัวเศร้าหมองเพราะอุปกิเลสที่จรมาซึ่งเป็นอกุศล ดังนั้น บุคคลต้องได้รับการฝึกฝนอบรมด้วยไตรสิกขาคือศีล สมาธิ ปัญญา ดังนั้น กระบวนการให้การปรึกษาเชิงพุทธจิตวิทยา จะเริ่มจากองค์ประกอบการให้การปรึกษา คือผู้ให้การปรึกษาต้องมีความรู้ความสามารถ มีเมตตากรุณา ไม่หวังลาภสักการะตอบแทน ผู้รับการปรึกษาอยู่ในสถานะที่จะเยียวยารักษาได้ วิธีการให้การปรึกษาจะใช้วิธีคิดแบบอริยสัจหรือคิดแบบแก้ปัญหาแบบอริยสัจ ๔ ในงานวิจัยนี้ได้ยกตัวอย่างของบุคคลมาเป็นกรณีศึกษาในการให้การปรึกษาทั้งประเภทผู้ประสบความสูญเสีย ผู้เป็นโรคซึมเศร้า และบุคคลผู้ก้าวร้าว ทุกรายมีปัญหาทุกข์โศกต่างกรณีกัน พระพุทธเจ้าทรงปลอบโยนโดยวิธีการให้ยอมรับความจริงของสิ่งที่เกิดขึ้น ทรงปลอบโยนให้กำลังใจจนได้สติ ดำรงชีวิตเป็นปกติสุขในกาลต่อมา บทสรุปก็คือ พุทธจิตวิทยานั้น มีองค์ความรู้กระบวนการแน่นอนตามแบบขั้นตอนของอริยสัจ ๔ บุคคลที่ได้รับการเยียวยารักษา จะมองเห็นคุณค่าของชีวิต ไม่คิดทำร้ายตัวเอง และพร้อมจะอยู่สู้โลกต่อไปด้วยจิตใจที่เข้มแข็งเป็นปกติสุข เฉพาะอย่างยิ่งพุทธจิตวิทยามีเป้าหมายมิได้เพียงเยียวยาสภาพจิตใจของผู้มีปัญหาสุขภาพจิตเท่านั้น แต่ยกจิตใจให้เฟื่องฟูสูงขึ้นจนถึงบรรจุอริยธรรมเป็นที่สุดด้วย |
URI: | http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/710 |
Appears in Collections: | รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
2561_ดร.นวลพรรณ1.pdf | 2.13 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.