Please use this identifier to cite or link to this item: http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/593
Title: การจัดสวัสดิการทางสังคมตามแนวพระพุทธศาสนาในจังหวัดเพชรบูรณ์
Other Titles: Social Welfare Management Based on Buddhism in Phetchabun Province
Authors: -, พระครูปริยัติพัชรธรรม
Keywords: การจัดสวัสดิการทางสังคม
ตามแนวพระพุทธศาสนา
จังหวัดเพชรบูรณ์
Issue Date: 2561
Publisher: สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ ๑) เพื่อศึกษาการจัดสวัสดิการทางสังคมตามแนวพระพุทธศาสนาในจังหวัดเพชรบูรณ์ ๒) เพื่อพัฒนากิจกรรมการจัดสวัสดิการทางสังคมตามแนวพระพุทธศาสนาของวัดในจังหวัดเพชรบูรณ์ ๓) เพื่อเสนอรูปแบบการจัดสวัสดิการทางสังคมตามแนวพระพุทธศาสนาของวัดในจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยรวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์ ซึ่งได้ทาการสัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมาย ๒ กลุ่ม ได้แก่ ๑) ตัวแทนของวัดในชุมชน ๒) ประชาชนในชุมชน รวมทั้งสิ้น ๓๐ รูป/คน นาเสนอผลการศึกษาโดยใช้วิธีพรรณนาวิเคราะห์จากการสัมภาษณ์ ผลการวิจัยพบว่า การจัดสวัสดิการสังคมตามแนวทางพระพุทธศาสนาในจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นหน้าที่ภาครัฐโดยร่วมมือกันของวัดและชุมชนที่จะต้องทาตามหลักนโยบาย ได้แก่ ๑) การจัดการให้สวัสดิการแก่บุคคลผู้อยู่ในวัดได้แก่พระภิกษุ-สามเณร อุบาสก อุบาสิกาผู้ที่ถือศีล ๘ ๒) การได้มีส่วนร่วมในการทากิจกรรมของวัดกับชุมชนของวัดเกี่ยวกับการจัดสวัสดิการทางสังคม ๓) มีการพัฒนาความร่วมมือในการร่วมกลุ่มการจัดกิจกรรมระหว่างวัดกับชุมชนและหน่วยราชการที่เข้ามาช่วยเหลือ การมีส่วนร่วมของวัดและชุมชนในการจัดสวัสดิการทางสังคมตามแนวพระพุทธศาสนาใน จังหวัดเพชรบูรณ์ มีแนวทาง ๓ แนวทาง คือ ๑) แนวทางการจัดสวัสดิการทางสังคมให้ความช่วยเหลือแก่พระสงฆ์และชาวบ้าน ๒) แนวทางการส่งเสริมให้มีการจัดกิจกรรมทางสังคมเพื่อให้เกิดสวัสดิการสังดมแก่วัดและชุมชน ๓) แนวทางการพัฒนากิจกรรมที่ทาให้สวัสดิการสังคมมเกิดขึ้นระดับจังหวัดและองค์กรทางด้านวัฒนธรรม รูปแบบการมีส่วนร่วมของวัดและชุมชนในการจัดสวัสดิการทางสังคม ได้แก่ ๑) การให้ความรู้ด้านสวัสดิการทางสังคมแก่พระสงฆ์และชุมชนวัด ๒) การจัดการทากิจกรรมร่วมกันของพรสงฆ์และชุมชนวัด เป็นกระบวนการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดการ ดาเนินงาน และ พัฒนาเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่อง การส่งเสริมการมีส่วนร่วมจึงจาเป็นต้องให้ความสาคัญกับลาดับและขั้นตอน และความเชื่อมโยง และ ๓) การสร้างเครือข่ายการจัดกิจกรรมของการจัดสวัสดิการทางสังคม โดยการกาหนดแนวทางให้เครือข่ายวัด และชุมชนทาหน้าที่อย่างมีขอบเขตที่จากัด เครือข่ายวัด เป็นเครือข่ายทา เน้นกระบวนการลงมือทางานด้วยขอบเขต และข้อบังคับที่มีอย่างจากัด
URI: http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/593
Appears in Collections:รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
2561-191พระครูปริยัติพัชรธรรม.pdf6.85 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.