Please use this identifier to cite or link to this item:
http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/572
Title: | กระบวนการสร้างมูลค่าเพิ่มและช่องทางการตลาดโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ของกลุ่มเกษตรอินทรีย์ อาเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี |
Other Titles: | The Process of Adding Valued and Marketing Channels by Using Information Technology of Organic Group Sri Prachan District, Suphan Buri |
Authors: | แสงหล้า, ปัณณวิชญ์ |
Keywords: | กระบวนการ ช่องทางการตลาด การสร้างมูลค่าเพิ่ม เทคโนโลยี สารสนเทศ กลุ่มเกษตรอินทรีย์ อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี |
Issue Date: | 2561 |
Publisher: | สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย |
Abstract: | การศึกษาเรื่อง กระบวนการสร้างมูลค่าเพิ่มและช่องทางการตลาดโดยใช้เทคโนโลยี สารสนเทศของกลุ่มเกษตรอินทรีย์ อาเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรีมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษา รูปแบบการจาหน่ายสินค้าเกษตรของกลุ่มเกษตรอินทรีย์ วิเคราะห์กระบวนการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรของกลุ่มเกษตอินทรีย์ และพัฒนาช่องทางการตลาดโดยใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรของกลุ่มเกษตรอินทรีย์ อาเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี ประชาชนและกลุ่มเป้าหมายได้แก่ กลุ่มเกษตรกรอินทรีย์เขตตาบลวังหว้าและ ตาบลบางงาม ที่ดาเนินการวิจัย จานวน ๒๐ คน โดยการสัมภาษณ์เชิงลึกและโดยมุ่งเน้นการวิเคราะห์ โดยการสรุปตามสาระสาคัญด้านเนื้อหาที่กาหนดไว้ โดยวิธีการวิเคราะห์เนื้อหา ได้แก่ ปัจจัย ข้อมูลพื้นฐานกับระดับการปฏิบัติของเกษตรกรที่ดาเนินการอยู่ปัจจุบันมีความสอดคล้องกับ กระบวนการสร้างมูลค่าเพิ่มและช่องทางการตลาดโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของเกษตรกร ผลการศึกษาวิจัยพบว่า รูปแบบการจาหน่ายสินค้าของเกษตรกรมี ๒ ช่องทาง มีพื้นที่จัดจาหน่ายผลผลิต และจากการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านระบบออนไลน์ได้แก่ระบบ Line@ รองลง Facebook และ Page ส่วนเกษตรกรที่มีอายุเกิน ๕๕ ปียังขาดทักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ การใช้เทคโนโลยี สารสนเทศในการเพิ่มช่องทางจาหน่ายผลผลิตทางเกษตรของกลุ่มเกษตรอินทรีย์แบบประเภทธุรกิจ กับผู้บริโภคมุ่งเน้นการบริการลูกค้าโดยตรงลักษณะเป็นการประกาศซื้อขาย ผลผลิต นาเสนอราคา ข แบบเจาะจงระหว่างเกษตรกรและผู้ซื้อที่สามารถสื่อสารกันโดยตรง ผ่านสมาชิกกลุ่มที่เป็น ผู้ประสานงาน ในการนาเสนอผลผลิตทางการเกษตรของกลุ่มสมาชิกผ่านออนไลน์ พบว่าผู้บริโภค และผู้ประกอบการสามารถสอบถามและระบุความต้องการประเภทผลผลิตได้เร็วสะดวกทาให้ยอด การจาหน่ายผ่านระบบออนไลน์มีมูลค่าสูงกว่าระบบออฟไลน์ที่นาผลผลิตไปจาหน่ายผ่านหน้าร้าน ของกลุ่มสมาชิก ส่วนการพัฒนาช่องทางการตลาดของกลุ่มเกษตรอินทรีย์ ใช้แนวทางการตลาด แบบไร้รอยต่อ(Omni Chanel Marketing) ได้แก่ ๑)ช่องทางการสื่อสารการตลาด ๒) การเชื่อมโยง ช่องทางการตลาด ๓) การเข้าใจพฤติกรรมและความคาดหวังของผู้บริโภค ๔)การส่งมอบ ประสบการณ์ที่ตรงต่อความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ๕) การสร้างความผูกพันกับผู้บริโภค โดยเชื่อมโยงผ่านระบบออนไลน์และควบคู่ไปกับระบบออฟไลน์เพื่อให้ไปในทิศทางเดียวกัน ในการจาหน่ายผลผลิตเกษตรอินทรีย์ โดยผ่านกระบวนการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการใช้สื่อ การเข้าถึงสื่อ และการนาสื่อไปใช้เชื่อมโยงช่องทางการตลาด ด้านผลผลิต ราคา ช่องทางการ จาหน่ายและการให้บริการแบบเจาะจงนาไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าเกษตรอินทรีย์ |
URI: | http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/572 |
Appears in Collections: | รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
2561-305 นายปัณณวิชญ์ แสงหล้า.pdf | 4.08 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.