Please use this identifier to cite or link to this item: http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/474
Title: การปฏิบัติและการสอบอารมณ์กรรมฐานตามหลักพระพุทธศาสนาเถรวาท ในประเทศไทย
Other Titles: The Practical Form and Examination of Theravada Meditation in Thailand
Authors: านชิโต, ชิต
-, พระครูพิพิธวรกิจจานุการ
Keywords: การปฏิบัติ
การสอบอารมณ์
กรรมฐาน
พระพุทธศาสนาเถวาท
ประเทศไทย
Issue Date: 2559
Publisher: สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ (๑) เพื่อศึกษาการปฏิบัติและแนวทางการสอบอารมณ์กรรมฐานในคัมภีร์พุทธศาสนาเถรวาท (๒) เพื่อศึกษาการปฏิบัติการสอบอารมณ์กรรมฐาน ๕ สานักในประเทศไทย (๓) เพื่อเสนอรูปแบบการปฏิบัติและการสอบอารมณ์กรรมฐานที่เหมาะสมกับประเทศไทย เป็นการวิจัยเชิงเอกสารโดยการวิเคราะห์ข้อมูลจากพระไตรปิฎก อรรถกถา ฎีกา และตาราวิชาการทางพระพุทธศาสนาเป็นสาคัญ ผลการวิจัยพบว่า กรรมฐาน คือ ที่ตั้งแห่งการงาน ได้แก่การฝึกจิตเป็นต้น แบ่งออกเป็น ๒ อย่าง คือ ๑) สมถกรรมฐานมี ๔๐ อย่าง กสิณกรรมฐาน ๑๐ อสุภกรรมฐาน ๑๐ อนุสสติกรรมฐาน ๑๐ พรหมวิหาร ๔ อรูปกรรมฐาน ๔ อาหาเรปฏิกูลสัญญา ๑ จตุธาตุววัตถาน ๔, ๒) วิปัสสนากรรมฐาน เป็นปัญญาที่พิจารณาเห็นไตรลักษณ์ละสังโยชน์ ๑๐ ประการจนสามารถบรรลุพระอรหันต์ได้ พระพุทธองค์ตรัสกรรมฐานคือ สมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐานไว้กับพุทธบริษัท ๔ ได้ประพฤติและปฏิบัติตามต่างกรรมต่างวาระกัน ส่วนแนวทางการสอบอารมณ์กรรมฐานเช่นในอนัตตลักขณสูตร และในจปลายมานสูตร ทรงสอนอุบายแก้ง่วงแก่พระมหาโมคคัลลานเถระจนได้บรรลุพระอรหันต์ในเวลาต่อมา หลักธรรมที่เกี่ยวข้องกับการสอบอารมณ์กรรมฐานที่เป็นปัจจัยแก่กันและกันมี ๗ หมวด ๓๗ ประการ คือ สติปัฏฐาน ๔ สัมมัปปธาน ๔ อิทธิบาท ๔ อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ และมรรค ๘ เรียกว่า โพธิปักขิยธรรม เป็นธรรมที่เป็นสาระแก่นสารแห่งพระพุทธศาสนา การปฏิบัติการสอบอารมณ์กรรมฐาน ๕ สานักในประเทศไทย คือ ๑) กรรมฐานแบบพอง-ยุบตามแนวพระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ ป.ธ.๙) มีการกาหนดภาวะที่พอง-ยุบตามความเป็นจริงของรูปนาม ส่วนการสอบอารมณ์ผู้สอบอารมณ์จะสอบอยู่ในกรอบของสติปัฏฐาน ๔ โดยใช้ทักษะการถาม การสังเกต การแนะนา และการให้กาลังใจ ๒) กรรมฐานแบบพุท-โธ ตามแนวหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต มีการภาวนา“พุท-โธ” และการกาหนดลมหายใจเข้า-ออก มีวิธีกาหนดจิตในฐาน ๕ คือ จมูก หน้าผาก กลางกระหม่อมข้างนอก ในสมองตรงกลาง กะโหลกศีรษะ และทรวงอก มีการวาง อารมณ์ที่ดีและอารมณ์ที่ชั่วไปตามสภาพอารมณ์เป็นต้น ๓) กรรมฐานแบบสัมมา-อะระหังตามแนวพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสาโร) มีวิธีการปฏิบัติมุ่งให้เรียนรู้เกี่ยวกับฐานทั้ง ๗ เช่น ฐานที่ ๑ ปากช่องจมูก หญิงซ้าย ชายขวา และฐานที่ ๗ ศูนย์กลางกาย เหนือระดับสะดือ ๒ นิ้วมือ และที่ศูนย์กลางกายนี้ เป็นที่ตั้งแห่งการพิจารณากาย เวทนา จิตและธรรมก็จะสามารถเห็นสภาวธรรมที่เกิดดับได้ ๔) กรรมฐานแบบเคลื่อนไหว ตามแนวหลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ มีการเจริญสติยึดวิธีการปฏิบัติแบบเคลื่อนไหวเป็นหลักใช้สติกาหนดรู้เท่าทันความเคลื่อนไหวต่างๆ ของร่างกาย โดยไม่ยึดติดกับรูปแบบเดิมเพื่อจูงจิตให้เกิดสมาธิ และมีการสอบอารมณ์กรรมฐาน ๕) กรรมฐานแบบอานาปานสติตามแนวพุทธทาสภิกขุ มีการเจริญอานาปานสติคือ การใช้สติกาหนดพิจารณาลมหายใจในกาย เวทนา จิต ธรรม มีการปฏิบัติ ๑๖ ขั้น เพื่อบ่มเพาะสติสัมปชัญญะ เป็นการเจริญสมถะนาหน้าวิปัสสนา ส่วนรูปแบบการปฏิบัติและการสอบอารมณ์กรรมฐานที่เหมาะสมกับประเทศไทย แบ่งเป็น วิเคราะห์ความสอดคล้องการปฏิบัติการสอบอารมณ์กรรมฐานในคัมภีร์พระพุทธศาสนากับสานักปฏิบัติธรรม ๕ สานักในประเทศไทย คือ ๑) สานักกรรมฐานแบบพอง-ยุบตามแนวพระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ ป.ธ.๙) มีความสอดคล้องกับพระไตรปิฎก แต่จะใช้สติปัฏฐาน ๔ มีการกาหนด ยุบหนอ-พองหนอ เป็นอารมณ์หลัก ๒) สานักกรรมฐานแบบพุท-โธตามแนวหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต มีความสอดคล้องกับพระไตรปิฎก แต่จะใช้กายคตาสติภาวนามีการกาหนดพุท-โธ เป็นอารมณ์หลัก ๓) สานักกรรมฐานแบบสัมมา-อะระหังตามแนวพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสาโร) มีความสอดคล้องกับพระไตรปิฎก แต่จะใช้สติปัฏฐาน ๔ มีการกาหนดสัมมา-อรหังเป็นอารมณ์หลัก ๔) สานักกรรมฐานแบบเคลื่อนไหวตามแนวหลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ มีความสอดคล้องกับพระไตรปิฎก แต่จะใช้สติปัฏฐาน ๔ ข้อที่ ๑ คือ กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน มีการเคลื่อนไหวร่างกาย ๑๕ จังหวะเป็นหลัก ๕) สานักกรรมฐานแบบอานาปานสติตามแนวพุทธทาสภิกขุ มีความสอดคล้องกับพระไตรปิฎก แต่จะใช้สติปัฏฐาน ๔ กับอานาปานสติเป็นหลักสาคัญในการปฏิบัติ ส่วนรูปแบบการปฏิบัติและการสอบอารมณ์กรรมฐานที่เหมาะสมกับประเทศไทย คือการปฏิบัติและการสอบอารมณ์กรรมฐานตามหลักสติปัฏฐาน ๔ คือ กาย เวทนา จิต และธรรม เพราะเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้องตามพระไตรปิฎก อรรถกถา และฎีกา ที่พระพุทธองค์ทรงวางแนวทางในการปฏิบัติและการสอบอารมณ์กรรมฐานตั้งแต่สมัยพุทธกาล และมีการประยุกต์เรื่องการปฏิบัติและการสอบอารมณ์ให้เหมาะสมกับผู้ปฏิบัติกรรมฐานสืบต่อมาจนถึงปัจจุบันนี้
URI: http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/474
Appears in Collections:รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
2559-044 พระมหาชิตานชิโต.pdf4.66 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.