Please use this identifier to cite or link to this item:
http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/407
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.author | พระครู, ภาวนาโพธิคุณ | - |
dc.contributor.author | คมฺภีรปญฺโญ, วิมาน, | - |
dc.contributor.author | อนารโย, ณัฐกิตติ | - |
dc.contributor.author | ฐิตญาโณ, สมบัตร, | - |
dc.date.accessioned | 2022-03-18T07:13:47Z | - |
dc.date.available | 2022-03-18T07:13:47Z | - |
dc.date.issued | 2561 | - |
dc.identifier.uri | http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/407 | - |
dc.description.abstract | การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมเชิงจริยธรรมของเยาวชนไทย เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่มีผลต่อพฤติกรรมเชิงจริยธรรมของเยาวชนไทย และเพื่อศึกษาการพัฒนาพฤติกรรมเชิงจริยธรรมของเยาวชนไทยในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นงานวิจัยแบบผสานวิธี โดยใช้วิธีการเก็บข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์และการแจกแบบสอบถามทั้งก่อนและหลังการอบรมจริยธรรม พร้อมกับนาเสนอผลการวิจัยในเชิงพรรณาวิเคราะห์ ผลการวิจัยพบว่า พฤติกรรมละเมิดจริยธรรมของเยาวชนไทยมีความสอดคล้องกับการละเมิดศีล ๕ โดยมีระดับความคิดเห็นของเยาวชนเกี่ยวกับพฤติกรรมการละเมิดจริยธรรมทั้งก่อนและหลังการอบรม ดังนี้ (๑) ปาณาติปาตา พฤติกรรมที่มีลักษณะรุนแรงมากที่สุด ก่อนการอบรมเห็นว่าเป็นการทรมานทาร้ายสัตว์ ร้อยละ ๔๙.๔ ส่วนหลังการอบรมเห็นว่าเป็นการฆ่าผู้อื่น ร้อยละ ๖๒.๖ (๒) อทินนาทานา พฤติกรรมที่มีลักษณะทุจริตมากที่สุด ซึ่งเห็นเหมือนกันทั้งก่อนและหลังการอบรมว่าเป็นการเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น แต่มีระดับความคิดเห็นไม่เท่ากัน คือ ก่อนการอบรมร้อยละ ๖๒.๔ และหลังจากการอบรม ร้อยละ ๖๑.๖ (๓) กาเมสุมิจฉาจารา พฤติกรรมที่เกี่ยวกับการละเมิดจริยธรรมทางเพศมากที่สุดเหมือนกัน คือ การมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน ก่อนการอบรม ร้อยละ ๘๐.๔ และหลังการอบรม ร้อยละ ๘๓.๑ (๔) มุสาวาทา พฤติกรรมที่มีลักษณะผิดจริยธรรมการสื่อสารมากที่สุดเหมือนกัน คือ การพูดคาหยาบ มีค่าเฉลี่ยก่อนการอบรม ร้อยละ ๕๙.๖ ส่วนหลังจากอบรม ร้อยละ ๕๙.๘ และ (๕) สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐานา พฤติกรรมผิดจริยธรรมที่มีลักษณะมึนเมามากที่สุดก่อนการอบรมเห็นว่าเป็นการเล่นการพนัน ร้อยละ ๗๑.๒ และหลังการอบรมเห็นว่าเป็นการขาดสติสัมปชัญญะ ร้อยละ ๗๒.๒ ส่วนสาเหตุของการละเมิดจริยธรรมของเยาวชนไทยมากที่สุดก่อนการอบรม คือ การมีสิ่งยั่วยุมากขึ้น ร้อยละ ๗๘.๘ และหลังการอบรม คือ ปัญหาส่วนตัวของเยาวชน ร้อยละ ๗๓.๔ โดยปัจจัยที่ทาให้เยาวชนไทยละเมิดจริยธรรมมากที่สุดเป็นปัญหาทางครอบครัว โดยค่าเฉลี่ยก่อนการอบรม ร้อยละ ๙๓.๖ และหลังการอบรมลดลงเหลือร้อยละ ๗๖.๓ ส่วนผลจากการ ละเมิดจริยธรรมของเยาวชนไทยมากที่สุดก่อนการอบรม คือ มีผลทาให้ติดสิ่งเสพติดและอบายมุข ร้อยละ ๖๙.๖ และหลังการอบรมเห็นว่าจะทาให้ผลการเรียนตกต่า ซึ่งคิดเป็นร้อยละ ๗๔.๘ | en_US |
dc.publisher | สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย | en_US |
dc.subject | การพัฒนา | en_US |
dc.subject | พฤติกรรมเชิงจริยธรรม | en_US |
dc.subject | ความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี | en_US |
dc.subject | เยาวชนไทย | en_US |
dc.title | การพัฒนาพฤติกรรมเชิงจริยธรรมของเยาวชนท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงทาง เทคโนโลยี : กรณีศึกษาเยาวชนไทยในจังหวัดขอนแก่น | en_US |
dc.title.alternative | Moral Behaviour Development of the Youths in duration of Technological Changing : Case Study Thai Youths in Khon-kaen Province | en_US |
dc.type | Thesis | en_US |
Appears in Collections: | รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
2561-164 พระครูภาวนาโพธิคุณ.pdf | 6.23 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.