Please use this identifier to cite or link to this item:
http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/330
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.author | ทองดี, วิทยา | - |
dc.contributor.author | พรมกุล, สุรพล | - |
dc.date.accessioned | 2022-03-16T08:15:00Z | - |
dc.date.available | 2022-03-16T08:15:00Z | - |
dc.date.issued | 2561 | - |
dc.identifier.uri | http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/330 | - |
dc.description.abstract | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์คือ ๑) เพื่อศึกษาสภาพการเรียนรู้เชิงพุทธกลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๒) เพื่อสร้างรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงพุทธ ๓) เพื่อ ประเมินผลรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงพุทธ ใช้รูปแบบการวิจัยเชิงคุณภาพ ประชากรที่ใช้ ในการวิจัยประกอบด้วยผู้บริหารและครูโดยใช้การสุ่มแบบเจาะจง รวม ๒๕ รูป/คน เครื่องมือที่ใช้ เป็นแบบสัมภาษณ์ และแบบสนทนากลุ่มเฉพาะ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์เนื้อหาเชิง พรรณนา ผลการวิจัยพบว่า ๑. สภาพกระบวนการเรียนเชิงพุทธกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม มี ๒ ส่วนคือ ๑) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักสูตร โดยแบ่งเป็น ๔ ขั้นตอน ดังนี้ ๑. ขั้นนา ๒. ขั้นสอน ๓. ขั้นสรุป และ ๔. ขั้นประเมินผล ๒) การจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตร ๒. การสร้างรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงพุทธกลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมแบ่งเป็น ๓ ขั้นตอน ประกอบด้วย ขั้นตอนที่ ๑ การปลูกฝังสัมมาทิฏฐิ คือ การที่ครูให้นักเรียนฝึกคิดอย่างถูกวิธี ได้แก่ ๑.๑) การคิดแบบสืบสาวหาเหตุปัจจัย ๑.๒) การคิดแบบ แยกแยะส่วนประกอบ ๑.๓) การคิดแบบสามัญลักษณ์ ๑.๔) การคิดแบบอริยสัจ ๑.๕) การคิดแบบ อรรถธรรมสัมพันธ์ ๑.๖) การคิดแบบเห็นคุณเห็นโทษ ๑.๗) การคิดแบบคุณค่าแท้ คุณค่าเทียม ๑.๘) การคิดแบบอุบายปลุกเร้าคุณธรรม ๑.๙) การคิดแบบมีสติเป็นอยู่ในขณะปัจจุบัน ๑.๑๐) การคิดแบบ วิภัชชวาท ขั้นตอนที่ ๒ การฝึกตนตามหลักของไตรสิกขา ได้แก่ ๒.๑) อธิสีลสิกขาคือการพัฒนา ด้านความสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม ทั้งสิ่งแวดล้อมด้านกายภาพและสิ่งแวดล้อมทางสังคม ๒.๒) อธิจิต ตสิกขา คือการพัฒนาภาวะจิต ฝึกจิตให้เข้มแข็งมีความพร้อมต่อการใช้งานทางปัญญา ๒.๓) ด้านอธิ ปัญญาสิกขา คือ รู้และเข้าใจปัญหาตามความเป็นจริง แก้ไขปรับปรุงปัญหาได้อย่างถูกต้อง ขั้นตอนที่ ๓ การพัฒนาตนตามหลักภาวนา ๔ คือ ๓.๑) กายภาวนา คือการพัฒนาความสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม ทางกายภาพ ๓.๒) ศีลภาวนา การพัฒนาด้านความประพฤติให้ดีขึ้น มีระเบียบวินัย ๓.๓) จิตภาวนา ข คือ การสร้างให้มีสุขภาพจิตที่ดี ๓.๔) ปัญญาภาวนา คือ การมองเห็นหลักของเหตุและผล สามารถ แก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ ๓. ผลการประเมินผู้ทรงคุณวุฒิมีความเห็นว่า ในภาพรวมของรูปแบบการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้เชิงพุทธ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม มีความเหมาะสมและความ เป็นประโยชน์อยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๙๘ และ ๕.๐๐ และผู้ปกครอง/พ่อแม่ และชุมชนมีความพึงพอใจต่อพฤติกรรมของนักเรียนอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๕๘ | en_US |
dc.publisher | สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย | en_US |
dc.subject | การพัฒนารูปแบบ | en_US |
dc.subject | การเรียนรู้เชิงพุทธ | en_US |
dc.title | การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงพุทธ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม | en_US |
dc.title.alternative | The Development of A Model for Buddhist Learning Activities Social Studies, Religion and Culture | en_US |
dc.type | Thesis | en_US |
Appears in Collections: | รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
2561-068ผศ.ดร.วิทยา ทองดี.pdf | 3.6 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.