Please use this identifier to cite or link to this item:
http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/286
Title: | การบริหารงานบุคคลในทศวรรษหน้า กรณี มหาวิทยาลัยในกากับของรัฐ |
Other Titles: | Decade personal management case study autonomous University |
Authors: | พิมพิลาลัย, ณภาส์ณัฐ ศิริไชย, กิตฑามาศ |
Keywords: | คุณลักษณะของทรัพยากรบุคคล ระบบบริหารงานบุคลากร, ภาพอนาคต |
Issue Date: | 2561 |
Publisher: | สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย |
Abstract: | การศึกษาวิจัยเรื่อง การบริหารงานบุคคลในทศวรรษหน้า กรณี มหาวิทยาลัยในกากับของรัฐ มีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑) ศึกษาคุณลักษณะของทรัพยากรบุคคลในมหาวิทยาลัยกากับของรัฐในทศวรรษ หน้า ๒) เพื่อสร้างภาพในอนาคต (Scenarios) ของระบบบริหารงานบุคลากรในทศวรรษหน้า กรณี มหาวิทยาลัยในกากับของรัฐ ๓) เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของทรัพยากรบุคคลใน ทศวรรษหน้า กรณี มหาวิทยาลัยในกากับของรัฐ เป็นการวิจัยเชิงอนาคตศึกษา (Future Research) โดยใช้เทคนิค EFR (Ethnographic Future Research) การฉายภาพอนาคต (Scenarios) รวมถึงการ สารวจความคิดเห็น (Opinion survey) ร่วมกับการวิจัยเอกสาร (Documentary Research) ระเบียบ วิธีวิจัย โดยการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ และสารวจแบบสอบถามจากบุคลากรด้านการศึกษา ผลการวิจัยพบว่า คุณลักษณะของบุคลากรที่จาเป็นต้องมีสาหรับภาพฉากทัศน์ในอนาคตที่ น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด ๑) ยึดหลักความถูกต้อง ๒) เป็นผู้มีความยึดมั่นในคุณธรรม ๓) เป็นผู้มีความ เป็นมืออาชีพในการทางาน ๔) เป็นผู้ที่มีจิตสาธารณะ/จิตอาสา ๕) เป็นผู้มีความรับผิดชอบต่อสังคม/ เอื้อประโยชน์ต่อสาธารณะ ๖) เป็นผู้มีระเบียบวินัยในการทางาน ๗) เป็นผู้มีความคิดสร้างสรรค์ มีความเพียร/อดทน เมื่อพิจารณาภาพอนาคตระบบบริหารงานบุคลากรในทศวรรษหน้าทั้ง ๓ ภาพอนาคตพบว่า ภาพอนาคตด้านที่เป็นไปได้มากที่สุด ประกอบด้วย ๑) มีโครงสร้างองค์กรแบบใหม่เป็นระบบ อิเล็กทรอนิกส์เต็มรูปแบบ ลดความซ้าซ้อนของงาน ๒) มีภาพลักษณ์ที่ทันสมัยในยุคดิจิทัล ๓) โครงสร้างระบบบริหารลดขนาดลงมากกว่าปัจจุบัน ๔) ถูกตรวจสอบมากขึ้น ๕) บุคลากรมีการ เรียนรู้และเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง ๖) บุคลากรมีคุณลักษณะที่ควรจะต้องมี คือมีความรับผิดชอบ ต่อสังคม มีจิตสาธารณะ/จิตอาสา มีความเป็นมืออาชีพ สาหรับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของทรัพยากรบุคคลในทศวรรษหน้า กรณีมหาวิทยาลัยใน กากับของรัฐ พบว่าระบบบริหารจาเป็นต้องมีแผนการปฏิบัติงาน เพื่อมุ่งผลสัมฤทธิ์และประสิทธิภาพ ของงาน นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบได้ หน่วยงานเป็นผู้นานโยบายไปปฏิบัติ โดยฝ่ายบริหารเป็นผู้ กาหนดนโยบาย และบุคลากรต้องปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับนโยบาย นอกจากนี้ยังต้องให้ความสาคัญ ต่อการจัดการความรู้ (Knowledge Management) เพื่อถ่ายเทความรู้ให้คนรุ่นใหม่เสมอ ปรับปรุง ภาพลักษณ์ให้ทันสมัยเสมอ มีระบบบริหารจัดการที่หน่วยงานอิสระสามารถเข้ามาตรวจสอบได้ มีการ ปรับเปลี่ยนนโยบายการบริหารทรัพยากรบุคคลแบบยืดหยุ่น เพื่อเป็นรากฐานให้สอดคล้องกับทุก กลุ่มเป้าหมาย ลดความซ้าซ้อนให้เหมาะสมในยุคดิจิทัล ระบบการบริหารอาชีพที่ยืดหยุ่นมีการ วางแผนทดแทนตาแหน่ง โดยเฉพาะกลุ่มงานที่มีความสาคัญและกลุ่มบุคลากรที่กาลังเกษียณอายุการพิจารณาปรับอายุเกษียณ เพื่อให้ผู้สูงอายุได้ใช้ความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมมาในการทา ประโยชน์ต่อไป มีการพัฒนาความรู้ความสามารถของบุคลากร ทั้งทางด้านทักษะการทางาน และ เทคโนโลยี การส่งเสริมค่านิยม คุณธรรม ความรักชาติและค่านิยมแห่งความพอเพียง การปรับปรุงด้าน ค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์ให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ที่เปลี่ยนแปลง |
URI: | http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/286 |
Appears in Collections: | รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
2561-286 ณภาส์ณัฐ พิมพิลาลัย.pdf | 2.98 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.