Please use this identifier to cite or link to this item:
http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/237
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.author | อารีกุล, ชนันภรณ์ | - |
dc.contributor.author | ฐิตปญฺโญ (บุตรดี), พระครูสมุห์ทอง | - |
dc.contributor.author | แซวรัมย์, สุวิทย์ | - |
dc.contributor.author | จอมมงคล, อรรถพล | - |
dc.date.accessioned | 2022-03-15T07:58:54Z | - |
dc.date.available | 2022-03-15T07:58:54Z | - |
dc.date.issued | 2561 | - |
dc.identifier.uri | http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/237 | - |
dc.description.abstract | การวิจัย “การพัฒนารูปแบบความเป็นครูในศตวรรษที่ ๒๑ บนพื้นฐานของจรรยาบรรณวิชาชีพเชิงพุทธบูรณาการ” ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑) เพื่อสังเคราะห์องค์ประกอบความเป็นครูในศตวรรษที่ ๒๑ บนพื้นฐานของจรรยาบรรณวิชาชีพเชิงพุทธบูรณาการ ๒) เพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันขององค์ประกอบความเป็นครูในศตวรรษที่ ๒๑ บนพื้นฐานของจรรยาบรรณวิชาชีพเชิงพุทธบูรณาการ และ ๓) เพื่อพัฒนารูปแบบความเป็นครูในศตวรรษที่ ๒๑ บนพื้นฐานของจรรยาบรรณวิชาชีพเชิงพุทธบูรณาการ วิธีดาเนินการวิจัยแบ่งเป็น ๓ ระยะ ได้แก่ ๑) การศึกษาเอกสาร (documentary study) การสังเคราะห์งานวิจัยโดยการวิเคราะห์เนื้อหา (content analysis) ๒) การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน (confirmatory factor analysis) และ ๓) การวิจัยโดยใช้เทคนิคเดลฟาย (Delphi technique) กลุ่มตัวอย่างของการวิจัย ได้แก่ ครูผู้สอนในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาทั่วประเทศ จานวน ๒๖๕ รูป/คน และผู้เชี่ยวชาญจานวน ๒๐ รูป/คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบวิเคราะห์เอกสาร แบบสอบถามเพื่อยืนยันองค์ประกอบและแบบสอบถามเดลฟาย สาหรับการวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์เนื้อหา การวิเคราะห์สถิติเชิงบรรยาย และการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน โดยใช้โปรแกรม LISREL ๙.๓ ผลการวิจัยพบว่า ๑) องค์ประกอบความเป็นครูในศตวรรษที่ ๒๑ บนพื้นฐานของจรรยาบรรณวิชาชีพเชิงพุทธบูรณาการ ประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก ๔ ด้าน ได้แก่ ด้านการจัดการเรียนการสอน ด้านจรรยาบรรณวิชาชีพ ด้านทักษะการคิด และหลักธรรมสาหรับความเป็นครู ๒) องค์ประกอบความเป็นครูในศตวรรษที่ ๒๑ พบว่า โมเดลมีความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ โดยพิจารณาจากค่าไค-สแควร์ (x2) เท่ากับ ๑๙๒.๖๗ ค่าความน่าจะเป็น (P- value) เท่ากับ ๐.๐๐๐ ค่าองศาอิสระ (df) เท่ากับ ๑๐๔ ค่าสถิติไคสแควร์สัมพัทธ์ (x2/df) เท่ากับ ๑.๘๕ ค่าดัชนีวัดระดับความกลมกลืน (GFI) เท่ากับ ๐.๙๐ ค่าดัชนีวัดระดับความกลมกลืนที่ปรับค่า แล้ว (AGFI) เท่ากับ ๐.๘๕ ค่าดัชนีวัดระดับความสอดคล้องเปรียบเทียบ (CFI) เท่ากับ ๐.๙๙ ค่าเฉลี่ย กาลังสองของเศษเหลือในรูปของคะแนนมาตรฐาน (RMSEA) เท่ากับ ๐.๐๖๕ ค่าน้าหนักองค์ประกอบ ในรูปคะแนนมาตรฐาน (𝛽) อยู่ระหว่าง ๐.๒๙ ถึง ๐.๙๕ มีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .๑๐ | en_US |
dc.publisher | สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย | en_US |
dc.subject | ความเป็นครู | en_US |
dc.subject | จรรยาบรรณวิชาชีพ | en_US |
dc.subject | พุทธบูรณาการ | en_US |
dc.title | การพัฒนารูปแบบความเป็นครูในศตวรรษที่ ๒๑ บนพื้นฐานของจรรยาบรรณวิชาชีพเชิงพุทธบูรณาการ | en_US |
dc.title.alternative | The Development of Being a Professional Teacher in the 21st Century Model Based on the Ethics of Profession with Buddhism Integration | en_US |
dc.type | Thesis | en_US |
Appears in Collections: | รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
2561-316 นางสาวชนันภรณ์ อารีกุล.pdf | 2.24 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.