Please use this identifier to cite or link to this item: http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/1439
Title: ชุมชนวัฒนธรรมวิถีพุทธ : การพัฒนาและยกระดับศิลปวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์เพื่อเสริมเศรษฐกิจชุมชนฐานราก จังหวัดแพร่
Other Titles: The Cultural Community on Buddhit Way: The Development and the Creative Upgrading of Arts and Culture for Supplementing the Local Economy on the Foundation in Phrae Province
Authors: จิรภัคพงค์, ชลธิชา
พระครูโสภณกิตติบัณฑิต
เกตุวีระพงศ์, พูนทรัพย์
อัฐวงศ์, พัฒน์นรี
Keywords: ชุมชนวัฒนธรรมวิถีพุทธ
ศิลปวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์
เศรษฐกิจชุมชนฐานราก
การพัฒนาและยกระดับการผลิต
Issue Date: 2566
Publisher: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดการความรู้งานศิลปวัฒนธรรมสร้างสรรค์ระดับชุมชนตามศาสตร์พระราชา จังหวัดแพร่ เพื่อพัฒนาและยกระดับการผลิตและเพิ่มมูลค่างานศิลปวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์เพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานราก จังหวัดแพร่ และเพื่อวิเคราะห์และนาเสนอรูปแบบการพัฒนาและยกระดับศิลปวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์เพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจชุมชนฐานราก จังหวัดแพร่ผู้ให้ข้อมูลสาคัญ จานวน ๓๐ คน ได้แก่ ผู้ประกอบการหัตถกรรมจักสานไม้ไผ่ สมาชิกกลุ่มหัตถกรรมจักสานไม้ไผ่ ปราชญ์ท้องถิ่น ผู้นาชุมชน ตัวแทนองค์การบริหารส่วนตาบลเหมืองหม้อ นักการศึกษา ประธานกลุ่มหัตถกรรมจักสานไม้ไผ่ ผู้รู้ด้านการออกแบบหัตถกรรมจักสานไม้ไผ่ ตัวแทนผู้บริโภค ตัวแทนจาหน่าย โดยใช้วิธีดาเนินการวิจัย ได้แก่ ๑) การวิจัยเชิงเอกสาร ๒) การวิจัยเชิงคุณภาพโดยการสัมภาษณ์และการสนทนากลุ่ม ๓) การวิจัยเชิงปฏิบัติการโดยการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อออกแบบและพัฒนาชุดความรู้ และการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เครื่องมือที่ใช้การวิจัยเป็นแบบการสัมภาษณ์ การสนทนากลุ่ม ชุดปฏิบัติการ และการอบรมเชิงปฏิบัติการ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหาพิจารณาประเด็นหลักและแบ่งออกเป็นประเด็นย่อย ผลการวิจัยพบว่า ๑. การจัดการความรู้งานศิลปวัฒนธรรมสร้างสรรค์ระดับชุมชนตามศาสตร์พระราชา จังหวัดแพร่ ประกอบด้วย ๑) การกาหนดความรู้ ควรคานึงถึงว่าองค์ความรู้ใดจาเป็นอย่างยิ่งในการที่จะก่อให้เกิดการส่งเสริมด้านเศรษฐกิจชุมชน เน้นคติด้านวัฒนธรรม ประเพณี ค่านิยมที่มีอยู่ในท้องถิ่น องค์ความรู้เกี่ยวกับภูมิปัญญาท้องถิ่นจึงเป็นฐานที่สาคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนสร้างสรรค์อันนาไปสู่การสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ๒) การสร้างและแสวงหา สมาชิกในชุมชนควรมีการพัฒนาการเรียนรู้และการพัฒนากิจกรรมกลุ่มอย่างสม่าเสมอ และหน่วยงานภาครัฐควรมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการดาเนินงานของชุมชน ได้แก่ เป็นผู้สนับสนุน เป็นผู้ส่งเสริมและเป็นผู้ประสานงาน ๓) การจัดเก็บความรู้ ควรพิจารณาถึงวิธีการในการเก็บรักษา เช่น การบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรที่ชัดเจน การจัดเก็บองค์ความรู้ในรูปสารสนเทศเพื่อให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายยิ่งขึ้น ๔) การแบ่งปันความรู้ ดาเนินการส่งเสริมให้ชุมชนแลกเปลี่ยนความรู้เป็นระบบพี่เลี้ยง การส่งเสริมให้เป็นชุมชนนักปฏิบัติ และการส่งเสริมเครือข่ายการเรียนรู้อาชีพระหว่างชุมชนที่ประกอบอาชีพหัตกรรมจักสานไม้ไผ่ ๕) การใช้ประโยชน์ ส่งเสริมเครือข่ายการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับอาชีพหัตถกรรมจักสานระหว่าง ข ชุมชนภายนอก หรือกลุ่มอื่นๆ ที่สนใจที่ประกอบอาชีพหัตกรรมจักสานไม้ไผ่ เพื่อเป็นการสืบทอดองค์ความรู้ดังกล่าว ๒. การพัฒนาและยกระดับการผลิตและเพิ่มมูลค่างานศิลปวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์เพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานราก จังหวัดแพร่ พบว่า ๑) องค์ความรู้การยกระดับการผลิตและการเพิ่มมูลค่าศิลปวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์เพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจชุมชนบนฐานรากจังหวัดแพร่ ประกอบด้วย การส่งเสริมการเรียนรู้ และการยกระดับผลิตภัณฑ์จักสาน ๒) การพัฒนาต้นแบบผลิตภัณฑ์ และการออกแบบลวดลายผลิตภัณฑ์ต้นแบบ ควรการนาลวดลายดั้งเดิมมาผสมผสานกับแนวคิดศิลปะเชิงสร้างสรรค์มาพัฒนาเพื่อสร้างมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้มีเอกลักษณ์ ซึ่งนาทรัพยากรสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่ในชุมชนมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบลวดลาย ได้แก่ ดอกสัก ซึ่งต้นสักเป็นพืชเศรษฐกิจจังหวัดแพร่ มาเป็นลวดลายของผลิตภัณฑ์ ๓) การพัฒนายกระดับการผลิตและเพิ่มมูลค่างานหัตถกรรมไม้ไผ่เพี่อเสริมเศรษฐกิจชุมชนบนฐานรากจังหวัดแพร่ เป็นการลงมือปฏิบัติเพื่อพัฒนายกระดับและเพิ่มมูลค่างานหัตถกรรมไม้ไผ่ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคและผลิตภัณฑ์มีความเป็นเอกลักษณ์ของชุมชน ๓) รูปแบบการพัฒนาและยกระดับศิลปวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์เพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจชุมชนฐานราก จังหวัดแพร่ ประกอบด้วย ๑) การจัดการองค์ความรู้ เป็นการดาเนินการจัดระบบองค์ความรู้ของชุมชนที่เกี่ยวกับหัตถกรรมเครื่องจักสานไม่ไผ่ ชุมชนควรการดาเนินการจัดระบบองค์ความรู้ของชุมชนที่เกี่ยวกับหัตถกรรมเครื่องจักสานไม่ไผ่ โดยอาศัยกระบวนการจัดการความรู้ ได้แก่ การกาหนดความรู้ การสร้างและแสวงหาความรู้ การจัดเก็บความรู้ การแบ่งปันความรู้ และการใช้ประโยชน์ความรู้ นามาซึ่งการอนุรักษ์สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นของตนเองให้คงอยู่ ๒) การถ่ายทอดองค์ความรู้ เป็นการแบ่งปัน แลกเปลี่ยนความรู้ ชุมชนควรมีรูปแบบในการดาเนินการถ่ายทอดองค์ความรู้ในชุมชนที่หลากหลาย เช่น การอบรม การจัดงานสัมมนาแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน เป็นต้น แล้วบันทึกภูมิปัญญาท้องถิ่นผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างองค์ความรู้ที่สามารถ่ายทอดให้แก่บุคคลอื่นได้ เพื่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้อย่างยั่งยืน ๓) การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ เป็นการอบรมพัฒนาฝีมือผู้ประกอบการ ศึกษาดูงานกลุ่มที่ประสบผลสาเร็จ กิจกรรมการถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างสมาชิกภายในชุมชนและภายนอกชุมชน ตลอดจนการเปิดรับข้อมูลข่าวสารต่างๆ ๔) การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ เป็นการพัฒนา ปรับปรุง หรือเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค โดยคานึงถึงรูปแบบ มาตรฐานการผลิต ความทนทานของผลิตภัณฑ์ ๕) การประเมินผลิตภัณฑ์ เมื่อผ่านขั้นตอนของการสร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์แล้วต้องมีการตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์นั้นมีความละเอียดประณีต ความสวยงาม ความคงทนของผลิตภัณฑ์หรือไม่นาไปสู่ความพึงพอใจของผู้บริโภค
URI: http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/1439
Appears in Collections:รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
ว.059.2566.pdf10.22 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.