Please use this identifier to cite or link to this item: http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/1436
Title: การศึกษาประวัติความเป็นมาของวรรณกรรมพงศาวดารน่าน
Other Titles: Study of the history of the Nan Chronicle literature
Authors: สะสม, ฐิติพร
รวบทองศรี, สุวารี
Keywords: พงศาวดารน่าน
ประวัติศาสตร์น่าน
วรรณกรรม
Issue Date: 2566
Publisher: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
Abstract: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมาของวรรณกรรมพงศาวดารน่านเพื่อวิเคราะห์ประวัติความเป็นมาของวรรณกรรมพงศาวดารน่าน เพื่อนำเสนอองค์ความรู้จากประวัติความเป็นมาของวรรณกรรมพงศาวดารน่าน เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) กลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญในเชิงคุณภาพ (Key Informant) ในการศึกษาครั้งผู้วิจัยได้ทำการคัดเลือกผู้ให้ข้อมูลสำคัญโดยการคัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง (purposive sampling) ที่มีความเชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ท้องถิ่นน่าน ภาษาล้านนาและวรรณกรรมล้านนา ได้แก่พระสงฆ์ ปราชญ์ชาวบ้าน ครูภูมิปัญญา นักวิชาการที่มีความรู้เกี่ยวกับคัมภีร์โบราณ จำนวน 7 รูป/คน เครื่องมือสำหรับเก็บข้อมูลได้แก่แบบสัมภาษณ์เชิงลึก การจัดประชุมกลุ่มย่อย วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการพรรณนา ผลการวิจัยพบว่า 1) ประวัติความเป็นมาของการบันทึกคัมภีร์พงศาวดารน่านเกิดจากความประสงค์ของพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช พระเจ้าน่านองค์ที่ 63 พระองค์ทรงได้มอบหมายให้ให้แสนหลวงราชสมภาร แต่งขึ้นและเป็นผู้รวบรวมและเรียบเรียงจากเอกสารใบลานต่างๆ เพื่อให้ได้เนื้อหาที่สมบูรณ์มากที่สุดแล้วจดบันทึกเขียนด้วยอักษรธรรมล้านนา (ตั๋วเมือง) เป็นการบันทึกกล่าวถึงราชวงค์ภูคาสร้างที่อำเภอปัว กล่าวถึงลำดับเจ้าผู้ปกครองของนครน่านจากเริ่มต้นจนถึงเจ้าผู้ปกครองนครน่านองค์ที่ 63 2) การสร้างนครน่าน มีการพัฒนานครรัฐขึ้นตามลำดับนั้น สามารถแบ่งเป็นยุคต่าง ๆ ตามช่วงเวลาออกเป็น 5 ยุค และเป็นไปตามการโยกย้ายถิ่นฐานบ้านเมือง และศูนย์กลางของการปกครองตามลำดับ ทั้ง 5 ยุคนั้น ประกอบด้วย ยุคสร้างวรนคร (เมืองปัว) ยุคที่สอง คือ ยุคเวียงภูเพียงแช่แห้ง ยุคที่สาม คือ ยุคเวียงใต้ ยุคที่สี่ ยุคเวียงเหนือ ยุคที่ห้า ยุคเมืองน่าน จนถึงปัจจุบัน สภาพทั่วไปของนครน่านในด้านการเมืองการปกครอง มีลักษณะเช่นเดียวกันกับหัวเมืองอื่น ๆ ในล้านนาไทย คือ เป็นการปกครองแบบรัฐประเทศราชโดยแต่ละเมืองจะมีเจ้าผู้ครองนครที่มีอำนาจสิทธิ์ขาดในการปกครองพลเมือง 3) สาระสำคัญของพงศาวดารน่าน กล่าวถึงการก่อสร้างเมืองน่านและลำดับของเจ้าผู้ครองนครน่านตั้งแต่อดีตเริ่มแรกก่อสร้างเมืองจนมาถึงผู้ครองนครน่านองค์สุดท้าย โดยแบ่งออกเป็นระยะของการสร้างและปกครองเมืองน่านที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ดังนี้ ระยะที่ ๑ การสร้างเมืองปัวและเมืองน่าน (ปลายพุทธศตวรรษที่ ๑๘ พ.ศ. ๑๙๙๒) มีเรื่องในลักษณะตำนาน กล่าวถึงชนกลุ่มหนึ่งภายใต้การนำของพระญาภูคา ได้ครอบครองพื้นที่ราบตอนบนของจังหวัดน่าน และตั้งศูนย์กลางปกครองอยู่ที่ เมืองย่าง ข ระยะที่ ๒ เมืองน่านขึ้นกับอาณาจักรล้านนา (พ.ศ. ๑๙๙๓--๒๑๐๑) พระเจ้าติโลกราชกษัตริย์ แห่งนครเชียงใหม่มีความประสงค์จะครอบครองนครน่าน และแหล่งเกลือบ่อมาง ซึ่งอยู่ใกล้ลำน้ำมางที่หาได้ยากทางภาคเหนือ จึงจัดทัพยกมาตีนครน่านเมื่อตีได้สำเร็จจึงได้ผนวกเข้าไว้ในอาณาจักรล้านนา ระยะที่ ๓ เมืองน่านตกเป็นเมืองขึ้นของพม่า (พ.ศ. ๒๑๐๓--๒๓๒๘) นครน่านต้องขึ้นตรงต่อการปกครองของพม่าที่เมืองเชียงใหม่ด้วย ระยะที่ ๔ เมืองน่านขึ้นกับกรุงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ. ๒๓๓๑) เจ้าฟูาอัตถวรปัญโญขอเป็นข้าขอบขัณฑสีมากรุงรัตนโกสินทร์ นครน่านมีฐานะเป็นหัวเมืองประเทศราช เจ้าผู้ปกครองนครน่านมีอำนาจสิทธิ์เด็ดขาดในการปกครองพลเมือง
URI: http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/1436
Appears in Collections:รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
ว.062.2566.1.pdf2.19 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.