การพัฒนาเยาวชนนอกระบบการศึกษาในสามจังหวัดชายแดนใต้

Abstract

การศึกษาวิจัยเรื่อง “การพัฒนาเยาวชนนอกระบบการศึกษาในสามจังหวัดชายแดนใต้” เป็นการวิจัยและพัฒนา (R&D) กับผู้เรียน ผู้รับบริการ จากหน่วยงานในสังกัดสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา อุปสรรค และ ความต้องการจำเป็น ด้านการพัฒนาการใช้ภาษาไทยของเยาวชนนอกระบบการศึกษาในสามจังหวัดชายแดนใต้ ๒) เพื่อพัฒนากระบวนการเรียนรู้ด้านการใช้ภาษาไทยให้กับผู้เรียน ผู้รับบริการ จากหน่วยงานในสังกัดสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ๓) เพื่อเสนอแนะแนวทางในด้านการพัฒนาการใช้ภาษาไทยให้กับเยาวชนนอกระบบการศึกษาในสามจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งกลุ่มตัวอย่างได้แก่ ผู้เรียน ผู้รับบริการ จากหน่วยงานในสังกัดสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส ทั้งนี้ผู้วิจัยได้ทำการกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ที่ระดับความเชื่อมั่น ๙๕% โดยใช้ตารางการกำหนดกลุ่มตัวอย่างของ Krejcie & Morgan (๑๙๗๐) จะได้กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ทั้งสิ้น จำนวน ๓๘๑ คน และใช้วิธีการคัดเลือกแบบบังเอิญ (Accidental Selection) ส่วนผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (Key Informant) ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการ ผู้อำนวยการ สกร. ครูที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา ใน ๓ จังหวัดชายแดนใต้ และ คณะวิทยากรที่จะทำการจัดอบรม จำนวน ๒ ครั้ง รวม ๒๐ คน โดยใช้การสนทนากลุ่มออนไลน์ ผลการวิจัยพบว่า จากการวิเคราะห์สภาพปัจจุบัน ปัญหา อุปสรรค และ ความต้องการจำเป็น ด้านการพัฒนาการใช้ภาษาไทยของเยาวชนนอกระบบการศึกษาในสามจังหวัดชายแดนใต้ ควรมีการพัฒนาครูให้มีความสามารถ หรือมีเทคนิคการสอนในรูปแบบใหม่ อาจจะต้องมีทักษะในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน พัฒนาหลักสูตรเฉพาะที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุน้อยลงเรื่อย ๆ พัฒนาสื่อหรือนวัตกรรมการเรียนรู้ใหม่ ๆ เพื่อที่จะทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตนเองได้ รวมไปถึงการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในการจัดการศึกษาให้กับเยาวชนนอกระบบการศึกษา และใช้การวิจัย ไม่ว่าจะเป็นวิจัยในชั้นเรียนหรือวิจัยรูปแบบการจัดการศึกษาที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละช่วงวัย

ส่วนกระบวนการที่คณะวิทยากรจัดการศึกษาให้กับเยาวชนนอกระบบการศึกษาจะมีทั้งหมด ๗ ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ ๑ จะเริ่มตั้งแต่ให้นักเรียนที่จะเข้าร่วมกิจกรรม ลงทะเบียนการเข้ารับฟังบรรยาย ขั้นตอนที่ ๒ ร่วมทำกิจกรรมละลายพฤติกรรม นันทนาการ เพื่อให้เกิดความเพลิดเพลิน ผ่อนคลายความตึงเครียดทั้งร่างกายและจิตใจ ขั้นตอนที่ ๓ ผู้ฟังบรรยายนั่งปฏิวัติสติ เพื่อให้ผู้ฟังบรรยายมีสมาธิ จิตใจจดจ่อ แน่วแน่กับสิ่งปัจจุบัน ขั้นตอนที่ ๔ ผู้ฟังบรรยายทำแบบสอบก่อนเรียน เพื่อวัดความรู้ในเรื่องที่บรรยายเบื้องต้น ขั้นตอนที่ ๕ ผู้รับฟังบรรยายเริ่มฟังบรรยาย ขั้นตอนที่ ๖ ผู้ฟังบรรยายร่วมทำแบบทดสอบหลังฟังบรรยาย เพื่อประเมินความรู้ที่ได้รับจากการฟังบรรยาย และ ขั้นตอนที่ ๗ แจกของรางวัลและของที่ระลึกให้กับผู้ฟังบรรยายที่ตอบคำถามจากเรื่องที่ฟังบรรยายได้ถูกต้อง ในการบรรยายจะจัดจังหวัดละ ๔ ครั้ง ๆ ละ ๓๐ คน รวมทั้งสิ้น ๑๒ ครั้ง ๓๖๐ คน เนื่องจากประชาชนของสามจังหวัดชายแดนใต้ (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส) ส่วนมากนับถือศาสนา อิสลาม และใช้ภาษามลายู หรือภาษาถิ่นเป็นหลักในการสื่อสารกับครอบครัว เพื่อน หรือสังคมทั่วไป ทำให้การใช้ภาษาไทยได้ไม่ถูกต้อง เกิดการอ่านที่ผิดเพี้ยน ไม่ตรงกับอักขระ ไม่ตรงวรรณยุกต์ และไม่ตรงตามสระของภาษาไทย ประกอบด้วยบางคนอ่านภาษาไทยไม่ได้ รวมถึงเขียนภาษาไทยไม่ได้ ทำให้มีผลกระทบเมื่อเขาสังคม หรือเข้าสอบสมัครงานในหน่วยงานต่าง ๆ ที่สำคัญทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาตกอีกด้วย ดังนั้นควรเน้นทักษะด้านภาษาไทย ไม่ว่าจะเป็นการพูด ฟัง อ่าน เขียน ให้แก่สามจังหวัดชายแดนใต้ (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส เพื่อให้เกิดการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ อ่านได้ตรงตามอักขระ วรรณยุกต์ ของภาษาไทย ทำให้ทางการศึกษาสูงขึ้นอีกด้วย