Please use this identifier to cite or link to this item:
http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/1421
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.author | พระครูภาวนาโสภิต | - |
dc.contributor.author | สุขพันธ์, ภราดร | - |
dc.contributor.author | ตาปูลิง, จันทรัสม์ | - |
dc.contributor.author | ประภัทรสิริ, บุญญาดา | - |
dc.date.accessioned | 2025-09-05T05:59:38Z | - |
dc.date.available | 2025-09-05T05:59:38Z | - |
dc.date.issued | 2566 | - |
dc.identifier.uri | http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/1421 | - |
dc.description.abstract | การศึกษาวิจัยเรื่อง“ความเป็นไทยและความเป็นอื่นของกลุ่มชาติพันธุ์ไทลื้อ ไทยอง กระเหรี่ยง ในจังหวัดลำพูน” มีวัตถุประสงค์ในการวิจัยคือ ๑) เพื่อศึกษาวิเคราะห์ลักษณะความเป็นไทยและความเป็นอื่นของกลุ่มชาติพันธุ์ไทลื้อ ไทยอง กระเหรี่ยงในจังหวัดลำพูน ๒) เพื่อพัฒนากระบวนการสร้างความเข้าใจในบริบทการอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างของความเป็นไทยและความเป็นอื่นของกลุ่มชาติพันธุ์ไทลื้อ ไทยอง กระเหรี่ยงในจังหวัดลำพูน ๓) เพื่อเผยแพร่กระบวนการสร้างความเข้าใจในบริบทการอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างของความเป็นไทยและความเป็นอื่นของกลุ่มชาติพันธุ์ไทลื้อ ไทยอง กระเหรี่ยงในจังหวัดลำพูน ใช้ระเบียบวิจัยแบบผสมผสานทั้งการวิจัยเชิงเอกสาร (Documentary Research) การวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) และการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) การวิจัยเชิงเอกสาร เป็นการศึกษาและรวบรวมข้อมูลจากเอกสารและหลักฐานที่เกี่ยวข้อง การวิจัยเชิงคุณภาพ เป็นการลงพื้นที่ใน ๓ อำเภอของจังหวัดลำพูน เพื่อการสัมภาษณ์ และรวบรวมข้อมูลจากผู้นำองค์กรภาครัฐ จำนวน ๒๐ คน สาระสำคัญประเด็นการสัมภาษณ์ ทำการวิเคราะห์แบบอุปนัย (Inductive Analytic) สำหรับการวิจัยเชิงปฏิบัติการ เป็นการพัฒนากระบวนการสร้างความเข้าใจในบริบทการอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างของความเป็นไทยและความเป็นอื่นของกลุ่มชาติพันธุ์ไทลื้อ ไทยอง กระเหรี่ยงในจังหวัดลำพูน โดยจัดกิจกรรมผ่านความคิดของนิสิตในระดับอุดมศึกษา เผยแพร่ผ่านทางสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อออนไลน์ และหน่วยงานภาครัฐ ผลการศึกษาพบว่า ๑) ลักษณะความเป็นไทยของกลุ่มชาติพันธุ์ไทลื้อ ไทยอง กระเหรี่ยงในจังหวัดลำพูน ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยในด้านสัญชาติ สิทธิและเสรีภาพ และความเป็นมนุษย์ ในปัจจุบันกลุ่มชาติพันธุ์ทั้ง ๓ กลุ่มนี้ ได้รับสิทธิและได้รับการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ดังนั้น ในการสร้างความเข้าใจบนความแตกต่างนั้น ควรนำหลักความเป็นธรรมตามกฎหมายมานำเสนอเป็นอันดับแรกตามความชอบธรรมที่กลุ่มชาติพันธุ์ควรจะได้รับ จากการวิเคราะห์ลักษณะความเป็นไทยแบบพหุนิยม พบว่า กลุ่มชาติพันธุ์ทั้ง ๓ กลุ่ม นับถือพระพุทธศาสนา ใช้ภาษาไทยทั้งพูด และเขียน นิยมแต่งกายด้วยชุดสากลตามสมัยนิยม ขณะเดียวกัน บ้านเรือนที่อยู่อาศัยเปลี่ยนจากเดิมเป็นสมัยใหม่ แบบปูนครึ่งหลังหรือสร้างด้วยปูนทั้งหลัง สำหรับด้านอาหารมีการรับประทานอาหารไทยมากขึ้น ปรับตัวตามบริบทสังคมที่ตนเองดำรงอยู่ในปัจจุบัน ลักษณะความเป็นอื่นของกลุ่มชาติพันธุ์ไทลื้อ ไทยอง และกระเหรี่ยงในจังหวัดลำพูน จากการวิจัยพบว่า แต่ละชาติพันธุ์ล้วนมีอัตลักษณ์เฉพาะของตนเอง ส่วนใหญ่จะมีภาษาพูด ส่วนภาษาเขียนจะมีเฉพาะไทลื้อที่ใช้อักษรธรรมล้านนาในการเขียน ด้านการแต่งกายจะที่ใช้วัสดุจากธรรมชาติมารังสรรให้เกิดความสวยงามและใช้วิธีการทอเป็นหลัก ส่วนอาหารจะนิยมทานผักเป็นส่วนใหญ่ และทานข้าวกับอาหารประเภทแกง ต้ม ยำ และน้ำพริก ด้านที่พักอาศัยนิยมสร้างบ้านยกพื้นสูง และมีเตาไฟบนบ้าน มีร้านน้ำดื่มไว้บนบ้าน ความเชื่อยังคงนับถือบรรพบุรุษและนับถือผีบ้านผีเรือน และผีป่า ใช้ผีเป็นกฎของชุมชน และค่านิยมยังมีการนับถือผู้อาวุโสในชุมชน โดยสิ่งที่กลุ่มชาติพันธุ์มีวิถีปฏิบัติที่คล้ายคลึงกันคือ การนับถือพระพุทธศาสนา นับถือผีบรรพบุรุษ และมีความเชื่อเรื่องผีในด้านต่าง ๆ มีค่านิยมนับถือผู้อาวุโส พระสงฆ์ ครูบาอาจารย์ มีการสร้างบ้านเรือนยกพื้นสูง มีเตาไฟบนบ้านและมีจุดน้ำดื่ม ส่วนอาหารแม้ว่าวิธีการปรุงที่แตกต่างกัน แต่ที่คล้ายกันคือ เน้นการทานผัก ประเภท แกง ต้ม ยำ และตำน้ำพริก ส่วนอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของแต่ละชาติพันธุ์คือ เครื่องแต่งกายที่มีลักษณะเฉพาะ แม้ว่าของไทลื้อและไทยองจะคล้ายคลึงกัน แต่ก็แตกต่างกันตรงการใส่ลวดลายที่มากกว่าในชุดไทลื้อ ส่วนชุดกระเหรี่ยงจะแตกต่างมาก มีการแบ่งประเภทเด็กสาว หญิงสาว และผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว จะสวมเสื้อผ้าที่แตกต่างกัน ๒) ผลการพัฒนากระบวนการสร้างความเข้าใจในบริบทการอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างของความเป็นไทยและความเป็นอื่นของกลุ่มชาติพันธุ์ไทลื้อ ไทยอง กระเหรี่ยงในจังหวัดลำพูน พบว่าควรนำเสนอความเป็นพลเมืองไทยบนพื้นฐานของกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ สิทธิเสรีภาพและความเป็นมนุษย์ และนำเสนอความภูมิใจในชาติพันธุ์ผ่านวัฒนธรรมประเพณีอันเป็นเอกลักษณ์ของชาติพันธ์ ในด้านการแต่งกายที่สวยงาม ด้านภาษา ด้านอาหาร ด้านความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาและความเชื่อต่าง ๆ โดยนำหลักพรหมวิหารมาประยุกต์ใช้ โดยผ่านรูปภาพของชาติพันธุ์ที่แสดงถึงความเมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา ซึ่งรูปแบบการนำเสนอควรใช้สื่ออินโฟรกราฟฟิกในการเผยแพร่ข้อมูลสู่สาธารณะผ่านช่องทางสื่อโซเชียลที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน และใช้บทกลอนที่มีความกระชับ ภาษาสวยงาม ไพเราะ และสอดคล้องกับเป้าหมายที่ต้องการนำเสนอ การออกแบบสื่ออินโฟรกราฟิกซึ่งมีขั้นตอนการออกแบบ ๕ ขั้นตอน คือ ๑) จุดประสงค์และเป้าหมายของสื่อ ๒) เน้นสาระสำคัญ ๓) การค้นหาข้อมูลเชิงลึก จากการค้นหาข้อมูลเชิงลึก ทำให้ได้หัวข้อของสื่ออินโฟกราฟิกโดยใช้หัวข้อว่า “ความเป็นไทย บนความเป็นธรรม” ๔) สร้างการเล่าเรื่อง เป็นการใช้ข้อมูลกับรูปภาพ เพื่อนำมาเล่าเรื่อง จำนวน ๕ ชุด เรียงตามลำดับชื่อคือ ๑) ความเป็นไทย บนความเป็นธรรม ๒) ความเป็นไทย บนความเป็นธรรม แบบบทกลอน ๓) ธรรม-ตามกฎหมาย ๔) ธรรม-ตามธรรมเนียม และ ๕) พรหมวิหาร- ธรรม ส่วนขั้นตอนที่ ๕ แบ่งสัดส่วนและใส่ภาพประกอบ จากนั้นนำไปประเมินความเหมาะสม ความถูกต้องของเนื้อหา และประโยชน์ในการใช้งานโดยผู้เชี่ยวชาญ ได้ผลโดยรวมอยู่ในระดับมากทุกด้าน และพบว่าด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านความมีประโยชน์ รองลงมาคือ ด้านความถูกต้อง และด้านความเหมาะสม ตามลำดับ จากผลการวิเคราะห์จึงสรุปได้ว่า ชุดความรู้ ผ่านเกณฑ์การประเมินผล จึงสามารถนำไปใช้ได้ ๓) การเผยแพร่กระบวนการสร้างความเข้าใจในบริบทการอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างของความเป็นไทยและความเป็นอื่นของกลุ่มชาติพันธุ์ไทลื้อ ไทยอง กระเหรี่ยงในจังหวัดลำพูน ดำเนินการผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโซเชียล และหน่วยงานภาครัฐ การเผยแพร่ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ เป็นการเผยแพร่ใบปลิว และโปสเตอร์ ในวัดที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดลำพูน การเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียล เป็นการเผยแพร่ผ่านเฟสบุ๊ค และเว๊บไซต์ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์ลำพูน และเครือข่ายกลุ่มนิสิตปกาเก่อญอ วิทยาลัยสงฆ์ลำพูน รวมถึงเฟสบุ๊ค ของวัดบ้านเหล่าพระเจ้าตาเขียว การเผยแพร่ผ่านหน่วยงานภาครัฐ เป็นการประสานความร่วมกันของหน่วยงานภาครัฐในการผลักดันให้เกิดกิจกรรมขึ้นในแต่ละชาติพันธุ์ เช่น การสร้างอนุสาวรีย์พ่อหนานปัญโญ กับแม่อุ้ยขา เพื่อเป็นจุดศูนย์รวมใจของไทลื้อบ้านธิ และใช้สถานที่ดังกล่าวในการเผยแพร่ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของตนให้สาธารณะชนได้รับรู้ ส่วนไทยอง และกระเหรี่ยงนอกจากมีฝีมือการทอผ้าแล้ว ยังมีภูมิปัญญาด้านการทำอาหาร ดังนั้น การจัดกิจกรรมหกรรมอาหารของชาติพันธุ์จึงเป็นกิจกรรมที่ควรนำเสนอต่อสาธารณะให้ได้มาลิ้มลองรสชาติอาหาร เป็นต้น | en_US |
dc.publisher | มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย | en_US |
dc.subject | กลุ่มชาติพันธุ์ | en_US |
dc.subject | ความเป็นไทย | en_US |
dc.subject | ความเป็นอื่น | en_US |
dc.subject | ชุดความรู้ | en_US |
dc.subject | หลักพรหมวิหาร ๔ | en_US |
dc.title | ความเป็นไทยและความเป็นอื่นของกลุ่มชาติพันธุ์ไทลื้อ ไทยอง กระเหรี่ยง ในจังหวัดลำพูน | en_US |
dc.title.alternative | Thainess and otherness of Tai Lue, Thai Yong, and Karen ethnic groups in Lamphun Province | en_US |
dc.type | Other | en_US |
Appears in Collections: | รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
ว.070.2566.pdf | 16.61 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.