Please use this identifier to cite or link to this item: http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/1390
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.authorศรีอร่าม, ภูริทัต-
dc.contributor.authorพระครูปลัดวิมลปริยัติวัฒน์-
dc.contributor.authorพระครูโอภาสสราธิคุณ-
dc.contributor.authorพิธิยานุวัฒน์, เจตนิพัทธ์-
dc.contributor.authorยอดบุญ, พรภิรมย์-
dc.date.accessioned2025-08-18T08:20:53Z-
dc.date.available2025-08-18T08:20:53Z-
dc.date.issued2566-
dc.identifier.urihttp://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/1390-
dc.description.abstractงานวิจัย เรื่อง อุปมานิทัศน์ : จากนามธรรมสู่รูปธรรมด้วยวิพากษ์วิธี มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำฐานข้อมูลอุปมานิทัศน์ในพระไตรปิฎก เพื่อจัดทำฐานข้อมูลวิเคราะห์อุปมานิทัศน์ในพระไตรปิฎกด้วยวิพากษ์วิธี และเพื่อพัฒนารูปแบบการใช้อุปมานิทัศน์ในพระไตรปิฎกด้วยวิพากษ์วิธี ข้อมูลที่ศึกษา คือ อุปมาอุปไมยในคัมภีร์วิพระไตรปิฎก ประชากรที่ใช้ในการวิจัยคือ พระภิกษุ นักวิชาการทางพระพุทธศาสนา รวมผู้ให้ข้อมูลทั้งหมด จำนวน ๑๓ รูป/คน ซึ่งเป็นผู้ให้ข้อมูลที่สำคัญ (Key-Informant) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ สัมภาษณ์แบบเจาะลึก (In-depth Interview) ผลการศึกษาพบว่า ๑. พระวินัยปิฎกซึ่งว่าด้วยหมวดสิกขาบทของภิกษุและภิกษุณี กล่าวถึงอุปมาอุปไมยตัวอย่าง จำนวน ๑๘ แห่ง พระสุตตันตปิฎกเกี่ยวข้องกับหลักธรรมและเทศนาที่ทรงแสดงแก่บุคคลหลากหลายลักษณะ กล่าวถึงอุปมาอุปไมยตัวอย่าง จำนวน ๖๖ แห่ง พระอภิธรรมปิฎกเกี่ยวข้องกับหลักปรมัตถธรรม กล่าวถึงอุปมาอุปไมยตัวอย่าง จำนวน ๑๓ แห่ง ๒. วิเคราะห์อุปมาในพระวินัยปิฎก ส่วนมากเป็นลักษณะพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมข้อหนึ่ง ด้วยพระบัญญัติทั้งหลายมีอย่างต่าง ๆ แบบแห่งการอธิบายที่เป็นเหตุอธิบายอาการนั้น ชื่อว่า ปัญญัตติหาระ, การวิเคราะห์อุปมาในพระสุตตันตปิฎก ส่วนมากจัดเป็นการพิจารณาคำถาม พิจารณาคำตอบ พิจารณาการกล่าวที่สมควรกับคำถามของสูตร พิจารณาอัสสาทะ (ความยินดี) เป็นต้นของสูตร ท่านเรียกว่า วิจยหาระ, วิเคราะห์อุปมานิทัศน์ในพระอภิธรรมปิฎก ส่วนมากเป็นลักษณะตั้งเป็นคำถามขึ้นมา แล้วอธิบายตอบคำถามอย่างละเอียด ธรรมทั้งหลายเหล่าใด ย่อมยังธรรมใดให้เกิด โดยความเป็นปัจจัย โดยสืบต่อกันมา แบบแห่งการอธิบายที่ชักเอาเหตุแห่งผลแห่งธรรมเหล่านั้นมาขยายความนี้ ชื่อว่า ปริกขารหาระ ๓. รูปแบบการใช้อุปมานิทัศน์ในพระไตรปิฎกด้วยวิพากษ์วิธี เป็นลักษณะการรู้จักใช้คำเชิงตรรกะ มีความรู้ในเรื่องของภาษาที่จะใช้สื่อสารได้ชัดเจน มีความรู้เรื่องคำและความหมายของคำศัพท์ที่จะใช้อย่างลึกซึ้ง ประกอบกับการรู้จักใช้คำศัพท์อธิบายหลักเหตุผลได้ชัดเจน มีความเข้าใจในเหตุตั้งต้นหรือหัวข้อหลักธรรมและมีความเข้าใจในผลหรือความหมายของหลักธรรม ซึ่งตรงกับหลักปฏิสัมภิทา ๔ คือ มีธรรมปฏิสัมภิทา ความเข้าใจในเหตุหรือหลักธรรม มีอัตถปฏิสัมภิทาความเข้าใจในผลหรือความหมายของหลักธรรม และมีความเข้าใจในภาษาหรือคำศัพท์ที่จะใช้ประกอบกับหลักเชิงตรรกะซึ่งเป็นนิรุตติปฏิสัมภิทา รวมกับธรรมปฏิสัมภิทาและอัตถปฏิสัมภิทาเป็นปฏิสัมภิทา ๓ ข้อข้างต้น ผสมผสานกับความรู้ในบริบททางสังคมเพื่อยกคำศัพท์ที่เป็นรูปธรรมให้เข้าใจอย่างสมเหตุสมผลen_US
dc.publisherมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยen_US
dc.subjectอุปมานิทัศน์en_US
dc.subjectนามธรรมสู่รูปธรรมen_US
dc.subjectวิพากษ์วิธีen_US
dc.titleอุปมานิทัศน์ : จากนามธรรมสู่รูปธรรมด้วยวิพากษ์วิธีen_US
dc.title.alternativeAllegory : From the abstract to the concrete with a critical approach.en_US
dc.typeOtheren_US
Appears in Collections:รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
ว.042.2566.pdf3.19 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.