Please use this identifier to cite or link to this item: http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/1387
Title: โคกหนองนาโมเดล : การจัดการเรียนรู้แบบบ้านเรียนระดับประถมศึกษา
Other Titles: “Khok Nong Na Model : Homeschooling for Elementary Education
Authors: อภิปญฺโญ, พระปลัดสรวิชญ์
Keywords: การจัดการเรียนรู้โดยครอบครัว
โคกหนองนาโมเดล
ชุดนวัตกรรมแผนการจัดการเรียนรู้
ระดับประถมศึกษา
Issue Date: 2566
Publisher: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑) ศึกษาสภาพและแนวทางการจัดการเรียนรู้แบบ Home School ระดับประถมศึกษา โดยใช้แนวคิดโคก หนอง นา โมเดล เป็นฐานการเรียนรู้ ๒) เพื่อสร้างชุด นวัตนกรรมการจัดการเรียนรู้แบบ Home School ๓) เพื่อเสนอชุดนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้แบบ Home School เป็นการวิจัยแบบผสมผสานระหว่างวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ และวิธีการวิจัยเชิง ปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในวิจัย ได้แก่ บ้านเรียนที่จดทะเบียนจัดการศึกษาขั้น พื้นฐานกับสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษา จำนวน ๒ แห่ง และ เครื่อข่ายโคก หนอง นา โมเดล จำนวน ๓ แห่ง, กลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการบริหาร การจัดการศึกษาขั้น พื้นฐาน และการจัดทำโคกหนองนา จำนวน ๑๕ รูป/คน และนักเรียน จำนวน ๔๖ คน ได้มาโดยวิธีการ สุ่มแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ แผนจัดการเรียนการสอน และ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยการใช้สถิติเชิงบรรยายและวิเคราะห์สรุปเนื้อหา ผลการวิจัย พบว่า ๑. สถาพการจัดการเรียนรู้แบบบ้านเรียน โดยใช้แนวคิดโคก หนอง นา โมเดล เป็นฐานการ เรียนรู้ ยังไม่แพร่หลายมากนัก ส่วนใหญ่จะจัดการศึกษาตามความพร้อมของครอบครัว ภูมิปัญญาชุมชน และทุนทางสังคมของครอบครัว สำหรับแนวทางการจัดการเรียนรู้แบบบ้านเรียนนั้น อย่างน้อยต้อง มีองค์ประกอบสำคัญ ๔ ประการ ได้แก่๑. เครือข่ายที่สนับสนุนการจัดการศึกษา ๒. หลักสูตรการศึกษา ๓.สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้และ ๔. กระบวนการจัดการศึกษา ๒. ชุดนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ มี๙ องค์ประกอบได้แก่๑.สาระสำคัญ ๒.มาตรฐาน/ตัวชี้วัด ๓.สาระการเรียนรู้ ๔.สาระการเรียนรู้บูรณาการ ๕.จุดประสงค์ฐานสมรรถนะ ๖.สาระการเรียนรู้ ๗.กิจกรรมการเรียนการสอน ๘. สื่อและแหล่งเรียนรู้และ ๙. การวัดผลและประเมินผล มีผลการคำนวน ได้ค่า IOC อยู่ระหว่าง ๐.๘๐ - ๑.๐๐ ซึ่งมีค่ามากกว่า ๐.๕ ถือว่าใช้ได้มีความเหมาะสมทุกแผนการ จัดการเรียนรู้ประกอบด้วย๑) บ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง ๒) การปลูกผักลอยฟ้า ๓) ๑ หลุม ๑ เมนู๔ ) การทำปุ๋ยหมัก ๕) การปลูกมะนาวในท่อซีเมนต์ ๖) บ้านนี้มีผล ผู้คนรักกัน ๗) ฅนรักษ์แม่โพสพ ๘) หัว คันนาทองคำ และ ๙) โคก หนอง นา ๓. นักเรียนส่วนใหญ่มีระดับความพึงพอใจต่อชุดนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ทั้ง ๔ ด้าน โดยรวม อยู่ในระดับมาก ( x = ๔.๑๔) เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านประโยชน์ที่ได้รับ ( x = ๔.๔๕) ซึ่งมีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด รองลงมาคือ ด้านบรรยาศการเรียนรู้( x = ๔.๓๘) ด้านสื่อการเรียนรู้ ( x = ๓.๙๒) และด้านกระบวนการจัดการเรียนรู้ซึ่งมีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุดคือ ( x = ๓.๘๓) ตามลำดับ
URI: http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/1387
Appears in Collections:รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
ว.039.2566.pdf5.78 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.