Please use this identifier to cite or link to this item: http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/1384
Title: การพัฒนาระบบภูมินิเวศธรรมชาติด้วยการจัดการความรู้แบบองค์รวมร่วมกับชุมชน
Other Titles: Development of Natural Landscapes Systems through Holistic Knowledge Management with Communities
Authors: บุญทองคำ, ณัฏยาณี
คมฺภีรปญฺโญ, พระสันต์ทัศน์
ชื่นวิทยา, กษิดิศร์
Keywords: การพัฒนา;
ภูมินิเวศธรรมชาติ
การจัดการความรู้
Issue Date: 2566
Publisher: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
Abstract: การวิจัย เรื่อง “การพัฒนาระบบภูมินิเวศธรรมชาติด้วยการจัดการความรู้แบบองค์รวม ร่วมกับชุมชน” มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อศึกษาระดับศักยภาพ ในการพัฒนา ระบบภูมินิเวศธรรมชาติ ด้วยการจัดการความรู้แบบองค์รวมร่วมกับชุมชน ๒) เพื่อศึกษาความต้องการ และความพร้อม ในการ พัฒนา ระบบภูมินิเวศธรรมชาติด้วยการจัดการความรู้แบบองค์รวมร่วมกับชุมชน และ ๓) เพื่อพัฒนา รูปแบบเครือข่ายเชิงพื้นที่ การพัฒนาระบบภูมินิเวศธรรมชาติด้วยการจัดการความรู้แบบองค์รวม ร่วมกับชุมชน เป็นการวิจัยผสานวิธี (Mixed Methods Research) ประกอบด้วย การวิจัยเชิง คุณภาพ (Qualitative) ที่ใช้เทคนิควิเคราะห์เอกสาร (Documentary Analysis) การสังเกตแบบมี ส่วนร่วม (Observations Participant) เทคนิคการสัมภาษณ์เชิงลึกแบบกึ่งโครงสร้าง (In-depth Interview Semi-Structure)ผู้ให้ข้อมูลสาคัญ (Key Informants) ซึ่งเป็นตัวแทนชุมชน หน่วยงาน ภาครัฐ พระสงฆ์ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแหล่งท่องเที่ยวในอาเภอเนินมะปรางจานวน ๓๐ ท่าน และการสนทนากลุ่มเฉพาะ (Focus Group Discussion) กับผู้เกี่ยวข้อง จานวน ๑๐ ท่าน ผลการวิจัยพบว่า ๑. ระดับศักยภาพในการพัฒนาระบบภูมินิเวศธรรมชาติด้วยการจัดการความรู้แบบองค์ รวมร่วมกับชุมชน พบว่า จะต้องเร่งเสริมสร้างศักยภาพให้สามารถรองรับต่อการจัดการความรู้แบบ องค์รวม และการท่องเที่ยวที่มีความเปลี่ยนแปลงไปในบริบทด้านต่างๆ ให้สามารถตอบสนองต่อความ ต้องการของนักท่องเที่ยว ชุมชน และปัญหาใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น โดยมีองค์ประกอบที่สาคัญต่อการจัดการ ความรู้ภูมินิเวศธรรมชาติ ในพื้นที่ชุมชนทุ่งแสลงหลวง จังหวัดพิษณุโลก มี ๔ ด้าน คือ ด้านภูมินิเวศน์ ธรรมชาติ ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านการอนุรักษ์ และด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว และชุมชนที่มี ศักยภาพสามารถเป็นชุมชนต้นแบบ ในการศึกษาเพื่อจัดการความรู้ภูมินิเวศน์ธรรมชาติ ด้านการ ส่งเสริมการท่องเที่ยว คือตาบลบ้านมุง อาเภอเนินมะปราง ที่มีสภาพทั่วไปด้าน เนื่องจากพบการ จัดการที่ทาให้คนในชุมชนเห็นความสาคัญของความรู้ภูมินิเวศธรรมชาติของชุมชนที่ปรากฎผลชัดเจน นอกจากนี้ชุมชนนามุงยังมีความต้องการในการออกแบบ การบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้ที่มีอยู่ใน ชุมชน ทั้งที่เป็นองค์กร เครือข่าย สถานที่ ๒. ความต้องการและความพร้อมในการพัฒนาระบบภูมินิเวศธรรมชาติด้วยการจัดการ ความรู้แบบองค์รวมร่วมกับชุมชน พบว่า การสื่อสารข้อมูลให้แก่นักท่องเที่ยว เป็นสิ่งสาคัญและ จาเป็นอย่างมาก เพื่อสร้างความรับรู้ ข้อมูลเบื้องต้นให้แก่นักท่องเที่ยว ในขณะที่การเก็บข้อมูลองค์ ข ความรู้ โดยทาการสืบค้นอย่างเป็นระบบ และทาการจัดเก็บเพื่อสามารถนามาประชาสัมพันธ์ให้แก่ นักท่องเที่ยวตลอดถึงผู้สนใจได้ ก็เป็นสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้น เมื่อมีการค้นหา สืบค้น ดาเนินการเก็บข้อมูล เพื่อการประชาสัมพันธ์ชุมชนแล้ว ก็ควรที่จะทาป้ายบอกแหล่งเรียนรู้ในชุมชนบ้านมุง มีการติดป้าย QR code เพื่อสะดวกแก่การแสกน สืบค้น และศึกษาข้อมูลของชุมชน สาหรับนักท่องเที่ยวและ บุคคลทั่วไปจากภายนอก ๓. การพัฒนารูปแบบเครือข่ายเชิงพื้นที่ การพัฒนาระบบภูมินิเวศธรรมชาติด้วยการ จัดการความรู้แบบองค์รวมร่วมกับชุมชน พบว่า องค์ความรู้ระบบภูมินิเวศธรรมชาติ ได้เป็น ๔ มิติ คือ มิติภูมินิเวศน์ธรรมชาติ, มิติด้านสิ่งแวดล้อม, มิติด้านการอนุรักษ์, และมิติด้านการส่งเสริมการ ท่องเที่ยว และสามารถจาแนกสภาพทั่วไปด้าน การจัดการ องค์ความรู้ด้านภูมินิเวศธรรมชาติ ทั้งใน ประเด็นการประกอบอาชีพ ที่สอดคล้องกับการอนุรักษ์ธรรมชาติ ได้เป็น ๔ มิติ คือ ด้านพื้นที่, ด้าน การจัดการ, ด้านกระบวนการกิจกรรม, ด้านองค์กรชุมชน นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่พิจารณาในด้าน สภาพทั่วไปด้าน การให้การศึกษา การถ่ายทอด และการต่อยอด ขององค์ความรู้ด้านภูมินิเวศ ธรรมชาติ ในพื้นที่ชุมชนทุ่งแสลงหลวง จังหวัดพิษณุโลก
URI: http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/1384
Appears in Collections:รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
ว.037.2566.2.pdf5.5 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.