Please use this identifier to cite or link to this item:
http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/1376
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.author | กนฺตธมฺโม, พระมหาสหาย | - |
dc.contributor.author | ปญฺญาวฑฺฒโน, พระมหาปิยะบุตร | - |
dc.contributor.author | ตรีตราเพ็ชร, นิรมล | - |
dc.contributor.author | โพธิ์ทอง, ปัญญา | - |
dc.contributor.author | พระครูโอภาสปัญญาวรคุณ | - |
dc.date.accessioned | 2025-08-05T05:23:04Z | - |
dc.date.available | 2025-08-05T05:23:04Z | - |
dc.date.issued | 2566 | - |
dc.identifier.uri | http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/1376 | - |
dc.description.abstract | การวิจัยเรื่อง บุพปัจจัยที่ส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงพุทธในจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นการวิจัยแบบผสานวิธีระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษา พัฒนา และนำเสนอกระบวนการบุพปัจจัยที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงพุทธ นำไปสู่แนวทางใน พัฒนาบุพปัจจัยที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงพุทธในจังหวัดฉะเชิงเทราให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งจะ ก่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติและพระพุทธศาสนาสืบต่อไป เชิงปริมาณ กลุ่มประชากร ที่ใช้ในการศึกษาคือกลุ่มประชากรที่อยู่ใน ๖ พื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ ๑) วัดโสธรวรารามวรวิหาร ตำบล หน้าเมือง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ๒) วัดชมโพธยาราม ตำบลโสธร อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ๓) วัดสาว ชะโงก ตำบลสาวชะโงก อำเภอบางคล้า ๔) วัดแจ้ง ตำบลบางคล้า อำเภอบางคล้า ๕) วัดปากน้ำโจ้โล้ ตำบลปากน้ำ อำเภอบางคล้า และ (๖) วัดสาวชะโงก ตำบลสาวชะโงก อำเภอบางคล้า จำนวน ๓๙๗ คน สำหรับเชิงคุณภาพ โดยสัมภาษณ์แบบเชิงลึก การสนทนากลุ่มและระดมความคิด กับพระสงฆ์ นักวิชาการ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง จำนวน ๘ รูป/คน ซึ่งเป็นผู้ให้ข้อมูลที่สำคัญ (Key-Informant) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) และแบบสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion) ผลการศึกษาพบว่า ๑. ความคิดเห็นเกี่ยวกับบุพปัจจัยที่ส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงพุทธในจังหวัด ฉะเชิงเทรา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = ๓.๙๓) และเมื่อแยกพิจารณาในรายด้าน พบว่า ด้าน การสร้างอัตลักษณ์ มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ( = ๔.๐๑) รองลงมาคือ ด้านการสร้างนวัตกรรม ( = ๓.๙๕) และด้านการสร้างเครือข่าย ( = ๓.๘๓) ตามลำดับ ๒. แนวทางในพัฒนาบุพปัจจัยที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงพุทธในจังหวัดฉะเชิงเทรา สรุป ได้ดังนี้ ข ๑. ด้านการสร้างอัตลักษณ์ เป็นรูปแบบและกิจกรรมตามลักษณะเฉพาะของการจัดการของแต่ละวัดที่แตกต่างกันไป ทั้งนี้ ควรส่งเสริมการพัฒนาอัตลักษณ์ของวัดในรูปแบบที่หลากหลายอันส่งผลต่อการท่องเที่ยววัดในจังหวัดฉะเชิงเทรา ทั้งทางสถาปัตยกรรม ประติมากรรม ประวัติศาสตร์ กิจกรรม ประเพณี และสิ่งดึงดูดใจต่าง ๆ ที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบและให้ความสนใจ ตลอดจนการมีรูปแบบกิจกรรมการท่องเที่ยวทางพระพุทธศาสนาที่น่าแปลกใจ น่าสนใจ โดยมีการดึงเอกลักษณ์เด่นของวัดในหลายมิติให้เห็นประจักษ์ เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเกิดความต้องการเดินทางกลับมาเที่ยวซ้ำอีก เช่น การมีสถานที่ปฏิบัติธรรมที่สะอาดและสงบ การให้ความสำคัญกับขั้นตอนการไหว้พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ การมีพุทธศิลปกรรมที่งดงาม การมีศูนย์เรียนรู้เชิงศาสนาและวัฒนธรรมเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้ขนบธรรมเนียมประเพณีของชุมชนท้องถิ่น การมีความพร้อมในด้านข้อมูลข่าวสาร สถานที่ กิจกรรมและบุคลากร เพื่อรองรับประชาชนที่เดินทางมาท่องเที่ยววัด เป็นต้น ๒. ด้านการสร้างเครือข่าย วัดส่วนใหญ่ไม่มีการสร้างเครือข่ายการท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรมเนื่องจากวัดมีงบประมาณน้อย ขาดบุคลากรที่มีความสามารถในการบริหารจัดการ และการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องไม่ต่อเนื่อง การจัดกิจกรรมของวัดส่วนใหญ่จะได้รับความร่วมมือจากส่วนท้องถิ่น เช่น องค์การบริหารส่วนตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชุมชนในพื้นที่ เป็นต้น ทั้งนี้ หากมีหน่วยงานกลางช่วยสนับสนุนในด้านการให้ความรู้ ทำหน้าที่ในการประสานให้เกิดเครือข่ายโดยให้มีสมาชิกทั้งระดับชุมชน ระดับผู้ประกอบการ ระดับหน่วยงานรัฐ และหน่วยงานเชื่อมโยงของแต่ละพื้นที่ให้มีความเป็นเอกภาพจะทำให้วัดมีเครือข่ายที่เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ ๓. ด้านการสร้างนวัตกรรม กระบวนการที่สามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวได้ คือ การสร้างสิ่งใหม่ ๆ ให้ทันสมัยตรงกับความต้องการของนักท่องเที่ยวและให้เกิดความพึงพอใจเพื่อการกลับมาเที่ยวซ้ำ ได้แก่ การจัดกระบวนการบริหารจัดการวัด การปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ การปรับปรุงภูมิทัศน์ทั้งภายในและโดยรอบวัด การจัดสถานที่สำหรับกิจกรรมทางศาสนา เพิ่มการประชาสัมพันธ์ด้านข้อมูลข่าวสารโดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น การจัดทำคู่มือการท่องเที่ยววัด การสร้างแอพพลิเคชันแนะนำการเที่ยววัด การใช้สื่อออนไลน์ต่าง ๆ การสร้างเว็ปไซต์ เป็นต้น นอกจากนั้น การใช้สื่อโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok เฟสบุ๊ค การทำ Content ในรูปแบบคลิปการ์ตูนสั้นเพื่อนำเสนอตัวตนของวัดและชุมชนให้ประชาชนได้รับทราบและสามารถเข้าถึงได้ง่าย นับเป็นการส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยววัดของจังหวัดได้อีกช่องทางหนึ่ง | en_US |
dc.publisher | มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย | en_US |
dc.subject | บุพปัจจัยการท่องเที่ยว, | en_US |
dc.subject | การส่งเสริม, | en_US |
dc.subject | การพัฒนา | en_US |
dc.subject | การท่องเที่ยวเชิงพุทธ | en_US |
dc.title | บุพปัจจัยที่ส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงพุทธในจังหวัดฉะเชิงเทรา | en_US |
dc.title.alternative | Elements to promote the development of Buddhist tourism in Chachoengsao Province | en_US |
dc.type | Other | en_US |
Appears in Collections: | รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
ว.033.2566.pdf | 6.43 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.