Please use this identifier to cite or link to this item:
http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/1349
Title: | นวัตกรรมศิลปะการละครพุทธเกสตอล เพื่อเสริมสร้างการปรับตัวทางสังคมของเด็ก บกพร่อง ทางการได้ยิน |
Other Titles: | Innovative Buddhist-Gestalt Theatrical Arts for Strengthening the Social Adaptation of Hearing-impaired Children |
Authors: | ภวกานันท์, อุบลวรรณา วินิธาสถิตย์กุล, ภริมา กอสนาน, ศรัณย์ ถิรทิตสกุล, บัณฑิตา |
Keywords: | การปรับตัวทางสังคม นวัตกรรมศิลปะการละครพุทธเกสตอล เด็กบกพร่องทางการ ได้ยิน โรงเรียนเศรษฐเสถียรในพระราชูปถัมภ์ |
Issue Date: | 2566 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย |
Abstract: | การวิจัยเชิงปฏิบัติการณ์นี้มีวัตถุประสงค์ ๑.เพื่อศึกษาบริบทพื้นที่และสภาพการปรับตัวทางสังคม (SA) ของเด็กบกพร่องทางการได้ยิน (HiC) โรงเรียนเศรษฐเสถียรในพระราชูปถัมภ์ (O๑) ๒.เพื่อสร้างและ ทดลองใช้นวัตกรรมศิลปะการละครพุทธเกสตอลท์ (IBGTA) และแบบประเมิน SA แล้วนำผลมาปรับปรุงให้ สมบูรณ์ (O๒) ๓.เพื่อนำเสนอองค์ความรู้และนวัตกรรมถ่ายทอดแก่ผู้มีส่วนได้เสียและตีพิมพ์บทความใน วารสารวิชาการ (O๓) กลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญมี ๒๐ คนคือ HiCระดับมัธยมศึกษา(M) ครู ผู้ปกครอง และ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับ HiC เก็บข้อมูลด้วยแบบสัมภาษณ์เชิงลึก ส่วนกลุ่มศึกษาจะสุ่มอย่างง่ายจาก M มา ๒ ระดับแล้วสุ่ม ๑ ระดับเป็นกลุ่มควบคุมจำนวน ๑๗ คน (M๖) และอีก ๑ ระดับเป็นกลุ่มทดลอง (M๕) จำนวน ๑๗ คนเช่นกัน ส่วนอีก ๑ ระดับที่เหลือใช้เป็นกลุ่ม try out เครื่องมือ (M๔) ข้อมูลเชิงปริมาณจะถูกวิเคราะห์ ด้วยสถิติเชิงพรรณนาและอนุมาน และข้อมูลเชิงคุณภาพจะใช้วิธีการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ผล O๑ พบว่า HiC มีปัญหา SA คือ ๑) ด้านมาตรฐานทางสังคม- กฎระเบียบที่ขัดกับวัยของ HiC ๒) ด้านทักษะสังคม- HiC จะเน้นคบเพื่อนกลุ่มเล็กหรือเพื่อนสนิทเท่านั้น ๓) ด้านแนวโน้มพฤติกรรมต่อต้าน สังคม- กฎระเบียบที่ขัดความต้องการของ HiC ๔) ด้านความสัมพันธ์ในครอบครัว- HiC รู้สึกเหงาเพราะ ครอบครัวไม่มีเวลาให้ ๕) ด้านความสัมพันธ์ในสถาบัน- HiC จะน้อยใจที่สื่อสารไม่ได้ดั่งใจ ๖) ด้าน ความสัมพันธ์ในชุมชนที่อยู่อาศัย- HiC จะเลี่ยงสื่อสารกับชุมชนเพราะเขาไม่เข้าใจ ผล O๒ พบว่า IBGTA มี ๓ ขั้นคือ ๑. ขั้นอุ่นเครื่อง ที่พบการใช้ VDO เพื่ออธิบายถึงภาพรวมของ ปัญหาซึ่งต่างจากคนปกติ ๒. ขั้นแสดง ที่เจ้าของปัญหาอาจมีมากกว่าหนึ่งคน และ ๓. ขั้นเสวนาประสบการณ์ ซึ่งผลเชิงปริมาณพบว่า คะแนน SA หลังการใช้ IBGTA สูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ จึงทำ ให้ยอมรับสมมติฐานของการวิจัย ส่วนผลเชิงคุณภาพจากการเสวนาแสดงถึงประสิทธิภาพของ IBGTA ที่ กระตุ้นให้ HiC พอใจในการที่สามารถสะท้อนสภาพปัญหาอย่างชัดเจน ได้เรียนรู้ปัญหาของตนเองและผู้อื่น จากการแสดงละคร รู้จักมองภายในตนเอง สื่ออารมณ์ และความคิดในปัญหาออกมาได้ง่าย สนุกกับกิจกรรม ที่แสดง คลายเหงา สร้างเพื่อนใหม่ได้ สามารถเข้าใจหลักพุทธธรรมที่ช่วยส่งเสริมจิตใจ การคิด การยอมรับสิ่ง ต่างๆ ปรับตัวทางสังคมได้ดี มีความสุขในการดำรงชีวิต โดยผู้ที่มีอิทธิพลสำคัญในการปรับตัวทางสังคมของ นักเรียน HiC คือ สถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา (โรงเรียน คุณครู และเพื่อนนักเรียน) และสถานบัน ชุมชน องค์กรต่าง ๆ (ชุมชนแถวบ้าน ชุมชนแถวโรงเรียน วัด องค์กรต่าง ๆ) งานวิจัยนี้มีผลกระทบของต่อ HiC และโรงเรียน HiC อื่นๆ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสนใจ อยากมาร่วมกิจกรรมของ IBGTA นี้ที่สามารถทำให้ HiC เกิดความไว้วางใจ ยอมแสดงเล่าถึงความทุกข์หรือ ปัญหาที่เก็บกดไว้ ที่ปกติจะไม่บอกออกมาง่ายๆ รวมทั้งยังสร้างความสุข สบายใจ ยอมรับคนอื่นๆ รู้จัก ปรับตัวและอารมณ์เข้ากับสังคมและเพื่อนๆได้ดี ช่วยให้ HiC มีการปรับตัวทางสังคมดีขึ้นอย่างมาก ผลของ O๓ พบว่า ผลผลิตจะมีรายงานวิจัยฉบับสมบรูณ์ให้แก่สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ และทำคู่มือ ฉบับย่อ ๑๐ หน้า รวมทั้งทำ infographic สรุปงานวิจัย ๑ หน้าแจกแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียคือ โรงเรียนเศรษฐ เสถียรในพระราชูปถัมภ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีการเขียนบทความลงตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ ระดับประเทศหรือระดับนานาชาติ และอาจนำผลงานไปนำเสนอในงานประชุมทางวิชาการระดับประเทศ หรือระดับนานาชาติ |
URI: | http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/1349 |
Appears in Collections: | รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
ว.015.2566.pdf | 6.6 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.