Please use this identifier to cite or link to this item:
http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/1348
Title: | มโนทัศน์เรื่องมิตรภาพในมุมมองปรัชญาศาสนากับการสร้างสังคมสันติสุข |
Other Titles: | A Concept of Friendship in Philosophy of Religions and Its building a Happy Society |
Authors: | สิริวโร, พระมหาพรชัย กิตฺติเมธี, พระมหาขวัญชัย เฟื่องฟูลอย, เพ็ญพรรณ |
Keywords: | มิตรภาพ ปรัชญาศาสนา สังคมสันติสุข กลไก |
Issue Date: | 2566 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย |
Abstract: | การวิจัยเรื่อง “มโนทัศน์เรื่องมิตรภาพในมุมมองปรัชญาศาสนากับการสร้างสังคมสันติสุข” มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการคือ ๑. เพื่อศึกษาแนวคิดเรื่องมิตรภาพและหลักการสร้างสังคมสันติสุขในมุมมองพระพุทธศาสนา ศาสนาคริสต์ ศาสนาฮินดูและศาสนาอิสลาม ๒. เพื่อวิเคราะห์รูปแบบกระบวนการสร้างมิตรภาพและสังคมสันติสุขในมุมมองพระพุทธศาสนา ศาสนาคริสต์ ศาสนาฮินดูและศาสนาอิสลาม ๓. เพื่อเสนอกลไกการสร้างมิตรภาพและสังคมสันติสุขตามมุมมองศาสนาการวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพและสัมภาษณ์ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญในศาสนาที่เกี่ยวข้อง ผลการวิจัยพบว่า แนวคิดเรื่องมิตรภาพและหลักการสร้างสังคมสันติสุขในมุมมองพระพุทธศาสนา ศาสนาคริสต์ ศาสนาฮินดูและศาสนาอิสลามล้วนชี้ไปที่ การพิจารณาความหมายมิตรภาพนั้นได้สร้างศีลธรรมแกนกลาง ที่ถูกเรียกว่า ศีลธรรมแบบบาง เป็นการอธิบายศีลธรรมแกนกลางด้วยการรวบรวมความเหมือนกันทางด้านคำสอนหลัก อันเสนอหลักการอธิบายเรื่องมิตรภาพและการสร้างสังคมสันติสุข โดยมุ่งไปที่ประเด็นเหล่านี้คือ ๑) หลักความเป็นมนุษย์ ทุกศาสนาสนใจร่วมกันในเรื่องมนุษย์ เพราะมนุษย์มีหลักเชิงอุดมคติทางศาสนาที่มีความเป็นมาเกี่ยวข้องกันและอาศัยกันเป็นสังคมจึงต้องมีหลักการปฏิบัติต่อกันเพื่อการอยู่ร่วมกัน ๒) การยอมรับความหลากหลาย ทุกศาสนายอมรับว่ามนุษย์มีความแตกต่างกันในแง่ความเชื่อและวิธีการปฏิบัติต่อกัน เพราะความหลากหลายเป็นวิถีปฏิบัติที่แตกต่างกันไปตามแต่มนุษย์แต่ละคน การยอมรับว่ามีความหลากหลายจึงเป็นวิธีการเรียนรู้เพื่อการสร้างการอยู่ร่วมกัน ไม่ใช่การเรียนรู้และขัดแย้งกัน ๓) มนุษย์มีคุณธรรม ทุกศาสนายอมรับร่วมกันว่า มิตรภาพและสังคมสันติสุขจะมีคุณธรรมพื้นฐานคือความรัก ความจริงใจ ความเป็นพี่น้อง ความเกื้อกูลและปราถนาดีต่อกัน เป็นการเสนอวิธีการแสดงออกของบุคคลทั้งทางกาย วาจา ส่วนใจนั้นเป็นหลักการที่อยู่บนพื้นฐานของการพัฒนาจิตใจตนเองให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับหลักคุณธรรมเหล่านั้น การวิเคราะห์รูปแบบกระบวนการสร้างมิตรภาพและสังคมสันติสุขในมุมมองพระพุทธศาสนา ศาสนาคริสต์ ศาสนาฮินดูและศาสนาอิสลาม เป็นการวิเคราะห์ด้วยการใช้แนวคิดผสมผสานที่พิจารณาพื้นฐานของสังคมไม่ใช่แค่ศาสนาและพิธีกรรมเท่านั้น แต่รวมถึงวัฒนธรรมทั่วๆ ไปที่เกิดขึ้นในทางสังคมทำให้พบว่า กระบวนสร้างมิตรภาพในศาสนานั้นถูกมองว่าเป็นเครื่องมือผ่านกระบวนการเหล่านี้คือ ก. การเข้าใจกัน ข. วิธีการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ค. การสร้างสังคมอุดมคติ ง. การสร้างความเกี่ยวข้องและสัมพันธ์กัน ง. ความอ่อนน้อมถ่อมตน จ. การยอมรับค่าสากลทาง ข สังคม ฉ. สร้างสังคมพหุวัฒนธรรม และเป้าหมายของสังคมสันติสุข (end) ที่เกิดขึ้นจะมีรูปแบบดังนี้ ก. สังคมที่มีความเสมอภาค ข. สังคมที่มีความเข้าใจกันและกัน ค. สังคมแห่งการให้เกียรติกัน ง. สังคมที่มีคุณธรรม จ. สังคมที่มีสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกัน ฉ. สังคมที่ไม่มีศัตรู ช. สังคมมีความเท่าเทียม ซ. สังคมพหุวัฒนธรรม ฌ. สังคมอุดมคติ ข้อเสนอกลไกการสร้างมิตรภาพและสังคมสันติสุขตามมุมมองศาสนา พบว่า การสร้างมิตรภาพและสันติสุขผ่านมุมมองศาสนาเชิงปฏิบัติแสดงให้เห็นผลกระทบทางด้านมุมมองและการเงื่อนไขทางสังคมที่มีหลักการทางศาสนาเป็นรากฐาน คือ ๑) ข้อเสนอมิตรภาพและสังคมสันติสุขของแต่ละศาสนา ได้สร้างผลกระทบต่อ ก. ความคิด ศาสนาคริสต์เสนอว่า มิตรทำให้เกิดความกล้าที่จะปฏิบัติตามหลักศาสนาได้ ข. ผลกระทบด้านอุดมการณ์ พระพุทธศาสนาเสนอว่า อุดมการณ์ของแต่ละศาสนานั้นเหมือนกัน ต่างกันแค่วิธีการสอนและการปฏิบัติในทางพิธีกรรมเท่านั้น ค. ผลกระทบด้านวิถีชีวิต ศาสนาฮินดูเสนอการให้เกียรติ ยกย่อง ประนีประนอมต่อกัน ใช้หลักธรรมที่เกิดจากการอบรมจิตและปัญญาเป็นเครื่องช่วยในการดำเนินชีวิต และ ง. ผลกระทบด้านวัฒนธรรม ศาสนาอิสลามเสนอการสร้างครอบครัวเดียวกัน เป็นความสัมพันธ์ภายในมนุษย์ และ ๒) ข้อเสนอมิตรภาพและสังคมสันติสุขของทุกศาสนาในภาพรวม เป็นการแสดงหาคุณค่ารวมกัน คือ ก. ผลกระทบความคิดเรื่องความไม่มีตัวตน สนใจแต่ความจริง ไม่ให้มนุษย์เห็นว่ามีตัวตนอยู่เหนือความจริง ข. ผลกระทบต่อคุณค่าหลัก เป็นการสร้างกิจกรรมการปฏิบัติร่วมกันทั้งในด้านวิชาการ และกิจกรรมร่วมกันทางศาสนา และ ค. ผลกระทบต่อการแก้ปัญหาความขัดแย้ง เป็นการเสนอให้เกิดการสานเสวนาตั้งแต่ระดับชุมชน จนถึงระดับนานาชาติ มีการพูดคุยกันอย่างสม่ำเสมอ |
URI: | http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/1348 |
Appears in Collections: | รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
ว.014.2566.pdf | 7.62 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.