แพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อส่งเสริมสัมมาชีพตามแนวพุทธในชุมชนโดยใช้ขยะรีไซเคิล จากโครงการเศรษฐกิจหมุนเวียนเป็นฐาน

Abstract

การวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ข้อดังนี้ (1) เพืืือศึกษาแนวทางการพัฒนาสัมมาชีพตามแนวพุทธในชุมชน (2) เพื่อพัฒนาสัมมาชีพตามแนวพุทธโดยใช้ขยะรีไซเคิลภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนเป็นฐานในพื้นที่อาเภอพระนครศรีอยุธยา (3) เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลสาหรับใช้ช่องทางจาหน่ายสินค้าสัมมาชีพตามแนวพุทธจากขยะรีไซเคิลของโครงการเศรษฐกิจหมุนเวียน อาเภอพระนครศรีอยุธยา แบ่งเป็น 2 โครงการย่อย เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการตามแนวคิดของ Kurt Lewin 4 ขั้นตอน 1) การวางแผน 2) การปฏิบัติ 3) การสังเกต 4) การสะทอนผล วิเคราะห์ตามหลักการวิเคราะห์โดยการเล่าเรื่องและวิเคราะห์เชิงประเด็นที่ค้นพบ ผลการวิจัยมีดังนี้ ผลการศึกษาแนวทางการพัฒนาสัมมาชีพตามแนวพุทธในชุมชนในชุมชน พบว่า หลักการสัมมาชีพ คือ อาชีพที่สุจริตในการทาอาชีพ ไม่ทาผิดกฎหมาย ไม่เอาเปรียบผู้บริโภค ไม่ทาให้ผุ้ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับอาชีพได้รับความทุกข์ใจ เดือนร้อนใจโดยมีหลักธรรม 3 ข้อ สนับสนุนความคิดการกระทาทางกาย วาจา ใจ คือ (1) กายโสเจยยะ (ความสะอาดทางกาย) (2) วจีโสเจยยะ (ความสะอาดทางวาจา)และ (3) มโนโสเจยยะ (ความสะอาดทางใจ) พัฒนาสัมมาชีพตามแนวพุทธโดยใช้ขยะรีไซเคิลภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนเป็นฐานในพื้นที่อาเภอพระนครศรีอยุธยา พบว่า ระหว่างวันที่ 11 มีนาคม ถึง 9 เมษายน 2566 คณะวิทยากรได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ และปฎิบัติการด้วยกัน 2 ครั้ง ให้ผู้สมัครเรียนโดยใช้สถานที่ปฎิบัติการวิจัยที่โรงเรียนวัดพระงาม(อรรถกฤษณ์ประชารัฐ) ตาบลบ้านป้อม อาเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทาชุดเฟอร์นิเจอร์ได้ 3 ชุด (เก้าอี้ 12 ตัว โต๊ะ 3 ตัว) และกระถางปลูกผักเกือบ 20 กระถาง นอกจากนี้ คณะวิทยากรออกแบบเฟอร์นิเจอร์รูปกบและหอยทาก พร้อมทาให้ดูเป็นตัวอย่าง คณะครูและชาวบ้านไม่สามารถทาเฟอร์นิเจอร์กบ/หอยทากได้ เพราะลักษณะชึ้นงานต้องใช้ทักษะอย่างสูง อย่างไรก็ตาม คณะครูและกานัน จะขอปรึกษาต่อยอดกับคณะวิทยากรเพื่อเพิ่มทักษะผลิตเฟอร์นิเจอร์กบ/หอยทาก ช การพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลสาหรับใช้ช่องทางจาหน่ายสินค้าสัมมาชีพตามแนวพุทธจากขยะรีไซเคิลของโครงการเศรษฐกิจหมุนเวียน อาเภอพระนครศรีอยุธยา พบว่า แพลตฟอร์มดิจิทัลที่ใช้เป็นช่องทางจาหน่ายสินค้า คือ Facebook page และ TikTok โดยคณะผู้วิจัยได้จัดทาคลิปวิดีโอนาเสนอสินค้าเป็นช่วง ๆ ตั้งแต่เริ่มต้นที่ ต้นน้า (ยางอะไล่รถยนต์ที่เป็นขยะ) กลางน้ากระบวนการให้ความรู้และพัฒนา รวมถึง ปลายน้า (ผลลัพธ์ชุดเฟอร์นิเจอร์) จานวน 7 คลิป โดยโพสต์คลิปวิดีโอดังกล่าวลงบน Facebook และ TikTok เพื่อโปรโมทสินค้า ผลจากการใช้งาน Facebook page และ TikTok คือ สินค้าเป็นที่รู้จักของประชาชนที่ได้ชมคลิปวิดีโอบนช่องทางดังกล่าว และมีลูกค้าสั่งซื้อชุดเฟอร์นิเจอร์และกระถางปลูกผักจากชาวบ้านและคณะครู ทั้งนี้เพราะ Facebook และ TikTok เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่คนทุกเพศทุกวัยใช้กันทั่วโลก และในปัจจุบันพ่อค้าเเม่ค้าใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลเป็นช่องทางจาหน่ายสินค้ากันอย่างแพร่หลาย เนื่องด้วยสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างรวดเร็วกว่าเว็บไซต์และใช้ต้นทุนต่า