DSpace JSPUI
DSpace preserves and enables easy and open access to all types of digital content including text, images, moving images, mpegs and data sets
Learn More
Please use this identifier to cite or link to this item:
http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/1248| Title: | การพัฒนาแอพพลิเคชั่น (Application) เพื่อการเรียนรู้แหล่งโบราณคดีทาง พระพุทธศาสนาสมัยทวารวดีในจังหวัดนครสวรรค์-อุทัยธานี |
| Other Titles: | Application development for learning Buddhist archaeological sites in the Dvaravati period in Nakhon Sawan - Uthai Thani province |
| Authors: | ผาทา, อธิเทพ |
| Keywords: | สิ่งแวดล้อม แหล่งโบรำณคดี แหล่งโบรำณคดีทำงพระพุทธศำสนำสมัยทวำรวดี แอพพลิเคชั่น |
| Issue Date: | 2565 |
| Publisher: | มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย |
| Abstract: | งานวิจัยเรื่อง “การพัฒนาแอพพลิเคชั่น (Application) เพื่อการเรียนรู้ผังแหล่งโบราณคดี ทางพระพุทธศาสนาสมัยทวารวดีในจังหวัดนครสวรรค์-อุทัยธานี” โดยมีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ (๑) เพื่อศึกษาแนวทางการสร้างแอพพลิเคชั่น (Application) ส่งเสริมการเรียนรู้ในเรื่องของผังแหล่ง โบราณคดีทางพระพุทธศาสนาสมัยทวารวดีในจังหวัดนครสวรรค์-อุทัยธานี (๒) เพื่อการพัฒนาและใช้ แอพพลิเคชั่น (Application) เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับการจัดการผังแหล่งโบราณคดีทาง พระพุทธศาสนาสมัยทวารวดีในจังหวัดนครสวรรค์-อุทัยธานี (๓) เพื่อศึกษาคุณค่าของพัฒนา แอพพลิเคชั่น (Application) ในการจัดการเรียนรู้และการจัดการผังแหล่งโบราณ คดีทาง พระพุทธศาสนาสมัยทวารวดีในจังหวัดนครสวรรค์-อุทัยธานี การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยใช้กระบวนการวิจัยเชิง ปฏิบัติการ (Action Research) มาเป็นส่วนหนึ่งของการดาเนินการวิจัย เน้นการศึกษาวิเคราะห์ทั้งในเชิง พื้นที่และกลุ่มเป้าหมาย มีการจัดกระบวนการวิจัยด้วยการถอดบทเรียนและการบูรณาการข้อมูลที่ได้ จากการสัมภาษณ์ การสังเกต และการปฏิบัติการร่วมกันในพื้นที่ศึกษาและกลุ่มเป้าหมายที่กาหนดไว้โดย ใช้กระบวนการตามวงจรเดมมิง (PDCA) เป็นเครื่องมือในการดาเนินงานการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมี ส่วนร่วมในทุกขั้นตอน ผลการวิจัยพบว่า ปัจจุบันการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเข้าถึงข้อมูลต่างๆนั้นสามารถที่จะทาได้ ง่ายและเข้าถึงแหล่งข้อมูลได้โดยละเอียดในการศึกษาเกี่ยวกับผังแหล่งโบราณคดีทางพระพุทธศาสนา สมัยทวารวดีในจังหวัดนครสวรรค์-อุทัยธานีก็เช่นกันจาเป็นจะต้องใช้เทคโนโลยีในการเข้าถึงข้อมูลได้ อย่างรวดเร็ว (1) แอพพลิเคชั่นถือว่าเป็นตัวเลือกหนึ่งของการสื่อสารการเข้าถึงแหล่งโบราณคดีได้ง่าย โดยแอพพลิเคชั่นนั้นถือว่าเป็นนวัตกรรมที่มีการพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้สามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่าง สังคมที่จาเป็นอย่างหนึ่งในปัจจุบัน ในการเข้าถึงพื้นที่และข้อมูลของผังแหล่งโบราณคดีทางพระพุทธศาสนาสมัยทวารวดีใน จังหวัดนครสวรรค์-อุทัยธานีนั้นจาเป็นจะต้องใช้แอพพลิเคชั่น โดยจะต้องมีการพัฒนาและนามาใช้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดคือการที่เราสามารถรับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งโบราณคดีได้ผ่านแอพพลิเคชั่น ในการพัฒนาและการใช้แอพพลิเคชั่นนั้นเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดคุณค่าเป็นอย่างมากโดยเฉพาะ คุณค่าในเชิงการเข้าถึง และคุณค่าในเรื่องของการจัดการซึ่งสามารถนาเอาแหล่งโบราณคดีทาง พระพุทธศาสนาสมัยทวารวดีในจังหวัดนครสวรรค์-อุทัยธานีทั้งหมดที่เป็นพื้นที่ศึกษามาไว้ในโทรศัพท์ เพียงเครื่องเดียวจากนั้นก็สามารถเข้าถึงรายละเอียดของข้อมูลแหล่งโบราณคดีได้โดยสะดวก |
| URI: | http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/1248 |
| Appears in Collections: | รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ |
Files in This Item:
| File | Description | Size | Format | |
|---|---|---|---|---|
| ว.013.2565.ย่อย4.pdf | 9.76 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.