Please use this identifier to cite or link to this item: http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/1244
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.authorพระเทพปวรเมธี-
dc.contributor.authorผาทา, อธิเทพ-
dc.contributor.authorศรีดี, ณัทธีร์-
dc.contributor.authorอินทร์กรุงเก่า, ญาศุมินท์-
dc.contributor.authorสุขประเสริฐ, ชยาภรณ์-
dc.date.accessioned2025-06-24T04:11:46Z-
dc.date.available2025-06-24T04:11:46Z-
dc.date.issued2565-
dc.identifier.urihttp://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/1244-
dc.description.abstractงานวิจัยเรื่อง “การออกแบบผังแหล่งโบราณคดีทางพระพุทธศาสนาสมัยทวารวดีในจังหวัด นครสวรรค์-อุทัยธานี” โดยมีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ (๑) เพื่อสารวจแหล่งโบราณคดีทาง พระพุทธศาสนาสมัยทวารวดีของจังหวัดนครสวรรค์-อุทัยธานี (๒) เพื่อออกแบบผังแหล่งโบราณคดี ทางพระพุทธศาสนาสมัยทวารวดีของจังหวัดนครสวรรค์-อุทัยธานี (๓) เพื่อการจัดกิจกรรมส่งเสริม การเรียนรู้ผังแหล่งโบราณคดีทางพระพุทธศาสนาสมัยทวารวดีของจังหวัดนครสวรรค์-อุทัยธานี (๔) เพื่อพัฒนาแอพพลิเคชั่น (Application) ในการจัดการเรียนรู้ผังแหล่งโบราณคดีทางพระพุทธศาสนา สมัยทวารวดีของจังหวัดนครสวรรค์-อุทัยธานี การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยใช้กระบวนการวิจัยเชิง ปฏิบัติการ (Action Research) มาเป็นส่วนหนึ่งของการดาเนินการวิจัย เน้นการศึกษาวิเคราะห์ทั้งในเชิง พื้นที่และกลุ่มเป้าหมาย มีการจัดกระบวนการวิจัยด้วยการถอดบทเรียนและการบูรณาการข้อมูลที่ได้ จากการสัมภาษณ์ การสังเกต และการปฏิบัติการร่วมกันในพื้นที่ศึกษาและกลุ่มเป้าหมายที่กาหนดไว้โดย ใช้กระบวนการตามวงจรเดมมิง (PDCA) เป็นเครื่องมือในการดาเนินงานการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมี ส่วนร่วมในทุกขั้นตอน ผลการวิจัยพบว่า (๑) คณะนักวิจัยได้ลงสารวจแหล่งโบราณคดีทางพระพุทธศาสนาสมัย ทวารวดีในจังหวัดนครสวรรค์-อุทัยธานีจานวน ๕ เมือง โดยพบว่าเมืองโบราณเหล่านี้มีอายุมาตั้งแต่ พุทธศตวรรษที่ ๑๒-๑๗ เป็นเมืองของชาวมอญ-เขมรโบราณซึ่งนับถือศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และ พระพุทธศาสนาเถรวาทนิกายสรวาสติวาทิน รูปร่างของเมืองเป็นเมืองรูปทรงกลมบ้างวงรีบ้าง ข สี่เหลี่ยมบ้าง โดยมีคูเมืองล้อมรอบ ๒ ชั้น (๒) การออกแบบผังแหล่งโบราณคดีทางพระพุทธศาสนา สมัยทวารวดีในจังหวัดนครสวรรค์-อุทัยธานีได้ดาเนินการออกแบบผังจานวน ๕ เมือง ผลของการ ออกแบบคือก่อให้เกิดประโยชน์คือประชาชนในพื้นที่เข้าใจในผังและสามารถเข้าถึงแหล่งโบราณคดีได้ ง่าย (๓) การจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้แหล่งโบราณคดีทางพระพุทธศาสนาสมัยทวารวดีในจังหวัด นครสวรรค์-อุทัยธานี มีอยู่ ๓ กิจกรรม ซึ่งมีผลต่อการส่งเสริมการปลูกจิตสานึกรักษาแหล่งโบราณคดี ในชุมชน (๔) การพัฒนาและการใช้แอพพลิเคชั่น “โบราณคดี @ อาณาจักรทวารวดี” ก่อให้เกิด คุณค่าในการจัดการการเรียนรู้และเข้าถึงผังแหล่งโบราณคดีในชุมชนได้ง่ายen_US
dc.publisherมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยen_US
dc.subjectสิ่งแวดล้อมen_US
dc.subjectแหล่งโบรำณคดีen_US
dc.subjectแหล่งโบราณคดีทำงพระพุทธศำสนำสมัยทวำรวดีen_US
dc.subjectกำรศึกษำเชิงสำรวจen_US
dc.subjectกำรออกแบบen_US
dc.subjectผังแหล่งโบรำณ คดีen_US
dc.subjectกำรอนุรักษ์en_US
dc.subjectกำรออกแบบen_US
dc.subjectกำรจัดวำงผังen_US
dc.subjectผังบริเวณen_US
dc.titleการออกแบบผังแหล่งโบราณคดีทางพระพุทธศาสนาสมัยทวารวดีในจังหวัด นครสวรรค์-อุทัยธานีen_US
dc.title.alternativeDesign and layout of Buddhist archeological sites in the Dvaravati period in Nakhon Sawan-Uthai Thani province.en_US
dc.typeOtheren_US
Appears in Collections:รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
ว.013.2565.pdf37.05 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.