การสังเคราะห์และถอดองค์ความรู้การแนะแนวต้นแบบในประเทศไทย

Abstract

วัตถุประสงค+ ๑) เพื่อศึกษาสภาพการแนะแนวต้นแบบในประเทศไทย ๒) เพื่อสังเคราะห์ และถอดองค์ความรู้กระบวนการแนะแนวต้นแบบในประเทศไทย ๓) เพื่อนำเสนอองค์ความรู้และ แนวทางกระบวนการแนะแนววิถีพุทธต้นแบบในประเทศไทย เปนการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) เพื่อศึกษาข้อมูลเชิงลึกของการจัดกิจกรรมแนะแนวต้นแบบในสถานศึกษา จากการ วิเคราะห์เอกสาร (Documentary Analysis)การสัมภาษณ์ผู้มีประสบการณ์ในการจัดกิจกรรมแนะ แนว เปนผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (Key informants) โดยการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) การ วิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (Key Informants) ครูแนะแนวต้นแบบ จำนวน ๔ คน ครูแนะแนวจากโรงเรียนในพื้นที่ จำนวน ๘ คน ประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญด้านการแนะ แนว, ผู้เชี่ยวชาญด้านพระพุทธศาสนา และบุคลากรที่กิจกรรมแนะแนวในสถานศึกษา และการ สนทนากลุ่ม (Focus group) จำนวน ๑๒ รูป/ท่าน เปนผู้เชี่ยวชาญในการจัดกรรมแนะแนว โดยเลือก จากผู้ที่เปนนักแนะแนวระดับต้น ๆ ของประเทศ เพื่อมาให้ยืนยันข้อมูลจากการศึกษาเอกสาร การ สัมภาษณ์ และให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ผลการวิจัย พบว่า กระบวนการแนะแนวเปนกระบวนการที่ช่วยให้ผู้เรียน ได้รู้จักและเข้าใจตนเองอย่าง ถูกต้อง รู้ขอบเขตความสามารถของตน เห็นคุณค่าของตน มีทักษะและวิจารณญาณในการ ตัดสินและ แก้ปัญหาได้ด้วยตนเองอย่างฉลาด และวางแนวทางการดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้องเหมาะสมและรู้เท่า ทัน สามารถ ปรับตัวเข้ากับบุคคลอื่นและสิ่งแวดล้อมได้เปนอย่างดี มีสุขภาพจิตที่ดี เปนสมาชิกที่ดี มี ประโยชน์ต่อครอบครัวและสังคม ขอบข่ายการแนะแนวต้นแบบในประเทศไทย แนะแนวเปนงาน ข บริการแนะแนวในโรงเรียนที่มุ่งให4ความช่วยเหลือนักเรียนในด้านต่าง ๆ เปนงานที่มีขอบข่ายการแนะ แนวที่ชัดเจน ๓ ด้าน ๑) การแนะแนวด้านการศึกษา การแนะแนวด้านการศึกษา เปนการสร้างเจต คติที่ดีต่อการเรียน ตลอดทั้งการสร้างนิสัย การเรียนรู้ตลอดชีวิต ๒) การแนะแนวด้านอาชีพ การ เตรียมความพร้อมและพัฒนาตนเอง ตลอดจนมีทักษะในการประกอบอาชีพ ๓) การแนะแนวด้าน ส่วนตัวและสังคม สังคม เปนการรู้จักและเห็นคุณค่าของตนเอง การรู้จักปรับตัวและแก้ปัญหาการ บริการแนะแนวก็ยังต้องประกอบไปด้วยกระบวนการของการให้บริการในแต่ละด้านทั้งหมด ๕ บริการ ๑) บริการเก็บข4อมูลส่วนบุคคล การแนะแนวที่ยึดผู้เรียนเปนสำคัญ โดยคำนึง ถึงความแตกต่าง ระหว่างบุคคล ๒) บริการสารสนเทศ เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในด้านการศึกษา อาชีพและสังคม ๓) บริการให้คำปรึกษา เพื่อช่วยให้เข้าใจตนเองและสิ่งแวดล้อมเพื่อนำไปสู่การป้องกันปัญหา ๔) บริการ จัดวางตัวบุคคล (Placement Service) คือบริการที่จัดขึ้นเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เรียนทางด้าน การเพิ่มพูนประสบการณ์ ๕) ติดตามผลและประเมินผล งานติดตามผล เปนการรวบรวมข4อมูล เกี่ยวกับผลที่ได้จากการจัดบริการแนะแนวและนำผลมาสรุปให้ชัดเจน เพื่อประโยชน+ในการจัดบริการ แนะแนวให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด บุคลากรทางการศึกษา/ครูแนะแนว จะต้องมีจรรยาบรรณ วิชาชีพ มีความรู้ ความเข้าใจ ในวิชาชีพ มีความเข้าใจในมนุษย์ตามหลักจิตวิทยา รักในการให้บริการ มีทัศนะคติในทางบวกต่อบุคคล บุคลภาพดี เปนผู้ที่มีสุขภาพจิตที่ดี มีอารมณ+มั่นคง มีคุณธรรม มี ลักษณะที่เปนมิตร น่าเข้าใกล้ เปนที่พึ่งได